วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รายการเพลงศักดิ์สิทธิ์และเรื่องเล่าจากพระคัมภีร์



ช่วงรายการ
1.Spot เริ่ม
2.บทเพลงพระเยซูอยู่ข้างเรา
3.แนะนำรายการ
4.แนะนำวัด
5.ชีวประวัติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 8
6.บทเพลง พระเจ้าทรงเลี้ยงดู
7.บทเพลงผู้เป็นความหวัง
8.แนะนำบ้านนิจจานุเคราะห์
9.ชีวประวัิติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 9
10.บทเพลงเราคือทาง
11.spot จบ

รายการคาทอลิกบอกเล่าเก้าสิบโดยวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล



ช่วงรายการ
1.สปอร์ตเริ่ม
2.แนะนำเข้ารายการ
3.ช่วงแรงบันดาลใจ งานอภิบาลวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล
4.เพลงพระเจ้าทรงเลี้ยงดู
5.ชีวประวัิตินักบุญคลารา
6.พระวาจาประจำวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา
7.อธิบายพระวาจาโดยคุณพ่อพงษ์เทพ ประมวลพร้อม รายการจากสื่อมวลชนคาทอลิก
8.นิทานเรื่อง ในที่มืด
9.เพลงเคียงข้างเสมอ
10.สปอร์ตจบ

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รื้อฟื้นคำสอนคริืสตังค์

ภาคที่ 1 การประกาศยืนยันความเชื่อ
ตอนที่ 1 “ข้าพเจ้า” “เราเชื่อ”
1.พระเป็นเจ้าทรงมีแผนการอะไรสำหรับมนุษย์ (1-25)

พระเป็นเจ้าทรงความดีอย่างไม่มีขอบเขต และทรงมีความสุขในพระองค์ เนื่องจากพระประสงค์ที่เกิดจากพระทัยดีของพระองค์ จึงทรงสร้างมนุษย์อย่างอิสระ เพื่อให้มนุษย์ได้มีส่วนร่วมในชีวิตที่มีสุขของพระองค์ เมื่อถึงเวลากำหนด พระเป็นเจ้าพระบิดาได้ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ไถ่กู้และพระผู้ช่วยให้รอดพ้นของมนุษย์ที่ตกในบาป ด้วยการเรียกพวกเขาเข้ามาอยู่ในพระศาสนจักรและทำให้พวกเขากลายเป็ฯบุตรบุญธรรมด้วยเดชะพระจิต และกลายเป็นทายาทของความสุขนิรันดรของพระองค์

รายการเพลงศักดิ์สิทธิ์และเรื่องเล่าจากพระคัมภีร์ โดยวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล

รายการวิทยุโดยวัดคาิทอลิกอัครเทวามีคาแอล จ.หนองบัวลำภู

ช่วงรายการ
1.Spot เริ่ม
2.บทเพลง เข้ามาหาพระเยซู
3.แนะนำรายการ
4.แนะนำวัด
5.ชีวประวัติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 8
6.บทเพลง ลูกคนบาป
7.บทเพลง วอนพระองค์
8.แนะนำบ้านนิจจานุเคราะห์
9.ชีวประวัิติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 9
10.บทเพลง สิบนิ้วประนมกร
11.บทเพลง ชีวิตใหม่
12.spot จบ

รายการคาทอลิกบอกเล่าเก้าสิบ โดยวัดอัตรเทวดามีคาแอล

สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา


ช่วงรายการ
1.สปอร์ตเริ่ม
2.แนะนำเข้ารายการ
3.ช่วงแรงบันดาลใจ ความหมายของวันเข้าพรรษาโดยพระอาจารย์สริยา เจ้าอาวาสวัดป่าอรัญเขต
4.เพลงพระเจ้าทรงเลี้ยงดู
5.ชีวประวัิตินักบุญ
6.พระวาจาประจำวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา
7.อธิบายพระวาจาโดยคุณพ่อพงษ์เทพ ประมวลพร้อม รายการจากสื่อมวลชนคาทอลิก
8.นิทานเรื่อง ในที่มืด
9.สปอร์ตจบ

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"จิตตารมณ์เยาวชน อุทิศตนและเสียสละ"

“เธอคือมวลพลังผู้กล้าและแกร่ง เธอร้อนแรงดั่งแสงตะวัน...” บทประพันธ์ผ่านทางของบทเพลง หลายท่านคงจะคุ้นหูกับบทเพลงนี้ซึ่งประพันธ์โดยนันทวัฒน์ รุจิวงศ์ คือ บทเพลงเธอวันนี้ ซึ่งกล่าวถึงพลังเยาวชนและสอนว่า “จงเป็นดั่งเปลวไฟที่กำลังโหมกระหน่ำ ลามลุกไหม้ความทุกข์ตรม” ความทุกข์ร้ายใดๆนั้นจะไม่ทำให้ใจเราย่อท้อ เมื่อผมได้ยินเพลงนี้ทีไรทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ เมื่อครั้งในอดีตที่ผมเองมีโอกาสได้เข้าอบรมสัมนาของหน่วยงานต่างๆจัดขึ้นในวัยที่ยังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมซึ่งในการร่วมกิจกรรมนั้นผมจะได้ยินเพลงนี้เสมอมา แต่ในปัจจุบันผมแทบไม่ได้ยินเพลงนี้เลยในการทำกิจกรรม แต่อย่างไรก็ตามยุคสมัยเปลี่ยนหลายอย่างเปลี่ยน ก็ขอให้เปลี่ยนไปในทางที่ดี! แต่แล้วผมรู้สึกเหมือนว่าเสียงของบทเพลงนี้ถูกขับขานและบรรเลงอีกครั้งเมื่อผมได้สัมผัสกลุ่มน้องๆ เยาวชนกลุ่มหนึ่ง ที่มีสโลแกนที่น่าประทับอย่างยิ่ง คือ “จิตตารมณ์เยาวชน อุทิศตนและเสียสละ”

เสียงเพลงปิดพิธีเริ่มขึ้นเป็นสัญญาณที่ชี้ว่าพิธีกรรมกำลังจะจบลงในวันอาทิตย์ทุกๆ อาทิตย์ ณ วัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล เยาวชนจำนวนหนึ่งก็จะมารวมกันเพื่อทำกิจกรรมในบริเวณวัด ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกจัดขึ้นมองดูน่าสนใจ สรรสร้างด้วยความคิดใหม่ ให้กว้างไกลด้วยวิชั่นอันโมเดิร์น ผมมองว่านั่นคือกิจกรรมของพวกเขา ซึ่งน้องๆ กลุ่มนี้ได้เล่าว่า “กลุ่มเยาวชนของเราได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการวตั้งแต่มิถุนายน ปีที่แล้ว มีเยาชนจำนวน 20 คนเป็นสมาชิก ภายใต้การดูแลของพ่อเจ้าอาวาสและสภาอภิบาล” นอกจากจิตตารมณ์แล้วสิ่งหนึ่งน่าสนใจยิ่งกว่าคือ สมาชิกของกลุ่ม ถ้าเปรียบเทียบก็คงเหมือน ชาวเมกกะทอยด์ปะทะชาวฟิวส์เรียดอะไรทำนองนั้น สมาชิกของน้องๆเหล่านี้ประกอบด้วย คนไทยเอย เวียดนามเอยที่เข้ามาทำงานในหนองบัวลำภู จัดว่าหลายสัญชาติเลยทีเดียว มีตั้งปกติชนและผู้ที่ถูกจัดว่าเป็นผู้ด้อยโอกาส คือ ผู้ได้ผลกระทบจากเชื้อ HIV แค่นี้ก็ให้งงเป็นไก่เลยทีเดียว น้องๆ กลุ่มนี้เขาอยู่ร่วมกันได้อย่างไร ผมเห็นครั้งแรกก็คิดไปต่างๆ นาๆ สอดไส้รึเปล่า? ผักชีโรยหน้ารึไง? สร้างภาพรึเปล่า? อะไรทำนองนั้น แต่แล้วทัศนคติเปลี่ยนเมื่อมีประโยคหนึ่งถูกคัดกรองออกมาจากความจริงใจออกมาทางปาก “เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง” นี่คือคำกล่าวของเยาวชนเวียดนามคนหนึ่ง ซึ่งนี่คือประโยคที่ทำให้ทัศนคติของผมเปลี่ยนและไม่ต้องมีคำถามว่าทำไม...อีกต่อไป...และทำให้ผมละอายใจด้วยซ้ำไปกับประโยคนี้ “เราจะร้องเพลงชาติไทยให้ฟัง” ในยามที่บ้านเมืองปั่นป่วน คนไทยฆ่ากันเอง ขนาดคนเวียดนามยังเป็นห่วงเป็นใย คนไทยๆ แท้ทำไม? นี่อาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมน้องๆกลุ่มนี้จึงอยู่ร่วมกันอย่างสันติด้วยความรักใคร่ปรองดองแม้ว่าทุกคนยืนอยู่บนความต่างของสภาพชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี แต่ทุกคนไม่แตกต่างในฐานะบุตรของพระเป็นเจ้า

“สรรสร้างด้วยความคิดใหม่ ให้กว้างไกลด้วยวิชั่นอันโมเดิร์น” กิจกรรมของน้องๆ กลุ่มนิ้ยิ่งทำให้เห็นคุณค่าของน้องกลุ่มนี้มากขึ้นและยังคงกลิ่นอายของคุณงามความดีซึ่งกำลังจะเลือนหายไปจากใจผู้คนหลายล้านคน อย่างเช่นกิจกรรมเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุในชุมชนที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพังไร้ซึ่งผู้เหลียวแล ด้วยเปลวไฟในใจทำให้ทุกคนออกไปภาระกิจอย่างกระตือรือร้นด้วยกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์หลายอย่างเท่าที่น้องกลุ่มนี้จะทำได้ การถ่ายทอดประสบการณ์ก็ดี การทำความสะอาดที่พักก็ดี ผมรู้สึกว่ากิจกรรมค่อนข้างถูกใช้มาเป็นเวลานานพอสมควรจากหลายกลุ่ม แต่นั่นเป็นความคิดที่ขัดแย้ง รอยยิ้มและเสียงหัวเราะและคำอวยพรจากผู้สูงอายุนั่นคือเสียงตอบรับและเป็นรางวัลตอบแทนของน้องๆ กลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี กิจกรรมต่างๆ นาๆ ที่ผมประทับอีกอย่างคือ การรับประทานอาหารร่วมกันในตอนเที่ยง ซึ่งได้แบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพและผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป อาทิตย์ไหนมืออาชีพทำอาหารก็โชคดีไป แต่อาทิตย์ไหนเจอมือสมัครเล่นซึ่งต่างจากมือสมัคร สุนทรเวชคนละขั้วจักรวาลเลยทีเดียว คำแรกที่เข้าปากนึกว่า รถน้ำปลาคว่ำลงบนกระทะผัดผักสักสิบคัน!! แต่สิ่งนี้ไม่มีสักคนที่บ่นหรือตัดพ้อต่อว่าตรงกันข้ามทุกคนต่างให้กำลังใจกัน ให้โอกาสทุกคนได้ฝึกฝน เรียนรู้ พัฒนาฝีมือทำกับข้าวจากมือสมัครเล่นสู่ฝีมือระดับมือสมัคร สุนทรเวชต่อไปต่อมาโครงการค่ายส่งเสริมจริยธรรมคุณธรรมเยาวชน นี่ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของผู้ร่วมได้ไม่แพ้กิจกรรมอื่นแม้ว่าการจัดค่ายจะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนระอุของฤดูร้อนของเมืองไทยก็ได้น้ำจากสงกรานต์บรรเทาความร้อนให้คลายลงไปบ้าง กิจกรรมจบลงไปพร้อมเปลือกและแก่นของการอบรมอย่างเข้มข้น 3 วัน 2 คืน และในช่วงนี้น้องๆ กลุ่มนี้กำลังขะมักเขม้นกับกิจกรรมทักษะชีวิตสู่สังคมอย่างมีสุขเป็น 1 ชั่วโมงทุกวันอาทิตย์หลังพิธีกรรมทางศาสนาจบ ซึ่งน้องที่เป็นเยาวชนของวัดก็กล่าวถึงกิจกรรมนี้และแนวโน้มของทฤษฎีสู่ภาคปฏิบัติหลังจากจบคอร์สนี้ “แน่นอนว่าถ้าเรามีทักษะการใช้ชีวิตที่ดี เราก็สามารแบ่งปันให้คนอื่นได้อย่างไม่เคอะเขินค่ะ” เป็นคำกล่าวที่ดีถ้าเราไม่มีก่อนเราก็คงแบ่งปันไม่ได้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นและยังมีอีกหลายกิจกรรมที่น่าสนใจของน้องๆ เยาวชนกลุ่มนี้ที่ไม่ได้กล่าวถึง ทุกจังหวะของการเดิน การวิ่ง การเต้น การร้อง ช่างเหมือนนกที่กำลังโบยบินของน้องกลุ่มนี้เหลือเกิน เหมือนต้นกล้าแห่งคุณธรรมในแปลงเพาะรอเวลาที่จะนำไปปลูกเพื่อจะได้เติบโตให้ร่มเงาต่อไป

ประกายไฟแห่งความสุขสันต์กำลังลุกไหม้ในตัวของบุคคลที่มีคุณธรรมประจำใจอย่างน้องๆ เยาวชนกลุ่มนี้ เยาวชนวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล กลุ่มยาวชนที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นมีรักให้กันและกัน และน้องๆ กลุ่มนี้ได้รับการดูแลอย่างดีจากคุณพ่อเจ้าอาวาสของวัดและสภาอภิบาล ด้วยการส่งเสริมกิจกรรมงานด้านเยาวชนของวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอลและความกระตือรือร้นของน้องๆกลุ่มนี้จะทำให้เกิดสันติภายในจิตใจและนำไปสู่สังคมสู่ประเทศชาติบ้านเมืองอันเป็นที่รักยิ่งของเราชาวไทยในอนาคต ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ กลุ่มนี้จงเป็นดั่งตะเกียงที่นำแสงไปในที่มืดมน เหมือนดั่งเพลง เธอวันนี้ “เธอคือมวลพลังผู้กล้าและแกร่ง เธอร้อนแรงดั่งแสงตะวัน...”

โดย เทวราช ไทยลำภุ

วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รายการเพลงศักดิ์สิทธิ์และเรื่องเล่าจากพระคัมภีร์

สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา

ช่วงรายการ
ช่วงรายการ
1.Spot เริ่ม
2.บทเพลง เข้ามาหาพระเยซู
3.แนะนำรายการ
4.แนะ นำวัด
5.ชีวประวัติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 4
6.บทเพลง ลูกคนบาป
7.บท เพลง วอนพระองค์
8.แนะนำบ้านนิจจานุเคราะห์
9.ชีวประวัิติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 5
10.บทเพลง สิบนิ้วประนมกร
11.บทเพลง ชีวิตใหม่
12.spot จบ

รายการวิทยุคาทอลิกบอกเล่าเก้าสิบโดย วัดอัครเทวดามีคาแอล สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา

สัปดาห์ที่ 16 เทศกาลธรรมดา

ช่วงรายการ
1.spot เริ่ม
2.แนะนำรายกาย
3.ช่วงแรงบันดาลใจ โครงการ "บ้านพักร่วมใจ"
4.บทเพลง ก้อนหินก้อนนั้น
5.ประวัตินักบุญ มาร์ธา
6.พระวาจาประจำวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. 53
7.อธิบายพระวาจาโดย บาทหลวงพงษ์เทพ ประมวลพร้อม
8.นิทาน ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
9.บทเพลง สุขใจเมื่อใกล้พระองค์
10.spot จบ

วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

นิยามแห่งรัก...(The Definition of Love)

เมื่อคำนิยามของคำว่ารักถูกถามขึ้น! ในระหว่างที่น้องๆเยาวชนเข้ากลุ่มทำกิจกรรมทักษะชีวิตหลังมิสซาวันอาทิตย์ ใครกันจะให้คำนิยามของคำว่ารักได้ดีและมีความหมาย คำตอบแตกต่างกันออกไป แต่ที่สุดแล้วนิยามแห่งรักมีบัญญัติไว้หรือไม่ ความรักมนุษย์เทียบได้กับความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือไม่ นี่คือคำตอบที่ต้องแสวงหา? ใครจะให้คำนิยามที่มีความหมายได้เท่ากับนิยามบทนี้“จะมีความรักใดที่ยิ่ง ใหญ่กว่าการพลีชีพของตนให้กับมิตรสหาย”ลองมาฟังนิยามแห่งรักข้างล่างนี้กัน ดูครับ

นิยามแห่งรัก...(The Definition of Love)

เมื่อครั้งในเยาว์วัยหลายคน คงคิดว่าความรักเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ยิ่งทำให้รู้จักและเข้าใจในเรื่องของความรักมากขึ้นทุกที... เมื่อยิ่งเข้าใจความรักมากขึ้นยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกว่าความรักไม่ได้อยู่ ไกลตัวอย่างที่คิด และกลับทำให้ตัวเองนั้นรู้สึกถวิลหาความรักมากขึ้นทุกที ๆ จนบางครั้งความรักก็ทำให้ เจ็บปวดรวดร้าวในจิตใจ บางครั้งความรักก็เป็นยารักษาใจให้แข็งแรง เป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ใหญ่ยิ่งทำให้ชีวิตได้ขับเคลื่อนต่อไป...

เมื่อความรักก้าวเข้ามาเคาะประตูหัวใจของใครบางคน คงเป็นได้ที่คน ๆ นั้นคงจะรู้สึก ตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ ในหัวใจคล้ายดูเหมือนกับตัวโน๊ตของเสียงดนตรีที่มีสูงและต่ำ แต่สิ่งที่สำคัญนั้นคือ “การรักษา ความรัก” ให้คงรู้สึกถึงความตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ได้เป็นแค่รักฉาบฉวยที่หมดลงไปตามกาลเวลาเท่านั้น
บทเพลงแห่งรักจะยังคงขับขานไพเราะเสนาะอย่างต่อเนื่องนั้นต้องขึ้นอยู่กับ ทัศนคติ และความเข้าใจในความรัก หากมีใครที่มีทัศนคติต่อความรักที่ไม่ถูกต้อง เพราะประเมินความรักจากสิ่งแวดล้อมในด้านลบ คงน่าเสียดายไม่น้อย หากคราใดที่มีใครเข้าใจในทัศนคติของ “รัก” อย่างดี ใครคนนั้นคงจะได้รับการปันผลจากความรักที่คุ้มค่าไม่น้อยทีเดียว แต่จะมีสักกี่คนได้ค้นหาถึงความหมายคำว่ารัก อาจจะจริงกับประโยคที่ว่า “ความรักต้องใช้เวลา” เพราะหากไม่มีเวลาสำหรับความรัก ก็คงไม่มีใครได้เรียนรู้ และเข้าใจในกับความรักเป็นแน่ การเรียนรู้ต้องควบคู่ไปกับโอกาส ดังนั้นเอง ความรักจะถึงจุดของความสำเร็จได้นั้นต้องมีองค์ประกอบหลายประการดังที่ได้ กล่าวมาแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเองได้สะท้อนถึงลักษณะของความรักที่มีอยู่ในตัวของมันเอง

จากข้างต้นที่ได้กล่าวมาผมได้สื่อถึงความรักในแง่มุมต่างที่แตกต่าง เช่น จุดเริ่มต้นความรัก และ การรักษาความรัก เป็นต้น สิ่งที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมดหากเปรียบแล้วก็คงเป็นเสมือน “นิยามแห่งรัก” ที่ถูกรวบรวมมาจากประสบการณ์ หรือมาจากความรู้ที่มีอยู่ รวมไปถึงคำบอกเล่าของคนรอบข้าง แต่ในวันแห่งความรักปีนี้ ผมปรารถนาที่จะนำเสนอ “นิยามแห่งรัก” ที่อยู่ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ และผมเชื่อว่าผู้อ่านทุกคนจะได้เข้าใจ และรับรู้ถึงทัศนคติ คำว่า “นิยามแห่งรัก” ที่ถูกต้อง

เนื่องในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาผม ได้รู้ว่ามีคนอีกมากมายที่ยังไม่เข้าใจในความหมายของคำว่า “รัก” เมื่อผมได้เริ่มต้นถามกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเกี่ยวกับ “ความรัก” กระผมต้องตกใจกับคำตอบที่ได้ยินซึ่งฟังดูไม่ไพเราะเสนาะหูเท่าไร เมื่อวัยรุ่นกลุ่มนั้นกล่าวว่า “ความรักคือ การเริ่มต้นที่จบลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์ และ ความรักเป็นเหมือนเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้” เป็นต้น

ผมเชื่อว่าผู้อ่านที่ได้ยินคำตอบแบบนี้นั้นคงจะรู้สึกตกใจอย่างมาก ด้วยเหตุที่สังคมปัจจุบันกำลังบั่นทอนความรักมากกว่าที่จะเติมความรักให้ เต็ม เช่น ปัญหาการหย่าร้าง, ปัญหาของวัยรุ่นในสังคม, ปัญหาด้านความเป็นเอกภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นต้น ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นสาเหตุอาจเป็นเพียงเพราะไม่มีใครเข้าใจใน “ความรัก” อย่างพอเพียง หรืออาจจะเป็นผลจากการละเลยความรักที่มีให้ต่อกันก็เป็นได้ ดังนั้นเองหากต้อง การที่จะแก้ไขปัญหาก็ควรที่จะแก้ไขอย่างตรงจุด มิใช่แก้ไขเพียงเฉพาะเปลือกนอกของปัญหา นั้นคือ “กระพี้” หรือแกนหลักสำคัญของปัญหา โดยต้องเริ่มจากทัศนคติของคำว่ารัก “นิยามแห่งรัก” ที่ไม่ใช่เพียงคำพูด หรือความรู้ในหัวสมองเท่านั้น แต่เป็นการภาพของการนำไปประยุกต์ใช้อย่างถูกต้อง

โดยครูแหม่ม

วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รายการวิทยุ เพลงศักดิ์สิทธิ์และเรื่องเล่าจากพระคัมภีร์

รายการวิทยุโดยวัดคาิทอลิกอัครเทวามีคาแอล จ.หนองบัวลำภู

ช่วงรายการ
1.Spot เริ่ม
2.บทเพลง เข้ามาหาพระเยซู
3.แนะนำรายการ
4.แนะนำวัด
5.ชีวประวัติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 2
6.บทเพลง ลูกคนบาป
7.บทเพลง วอนพระองค์
8.แนะนำบ้านนิจจานุเคราะห์
9.ชีวประวัิติ พระคริสตเจ้า ตอนที่ 3
10.บทเพลง สิบนิ้วประนมกร
11.บทเพลง ชีวิตใหม่
12.spot จบ

รายการวิทยุคาทอลิกบอกเล่าเก้าสิบโดย วัดอัครเทวดามีคาแอล วันที่ 11 ก.ค. 2553

สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา

ช่วงรายการ
1.spot วัด
2.แนะนำเข้ารายการ
3.แรงบันดาลใจ สัมภาษณ์ คุณเข็ม ผู้ติดเชื้อ HIV
4.บทเพลง ฤดูกาล
5.ประวัตินักบุญยากอบ
6.พระวาจาของพระเจ้า
7.อธิบายพระวาจา โดย บาทหลวงพงษ์เทพ ประมวลพร้อม
8.นิทาน ชายชรากับลังเหล็ก
9.Spot จบ

คุณแสตนเลย์กับภารกิจแห่งพระเมตตา

9 กรกฎาคม 2010 เวลา 18.00 - 20.00 น. การบรรยายถึงพระเมตตาขององค์พระเยซูเจ้าของคุณแสตนเลย์ และทีมงาน ณ วัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแิอล จ.หนองบัวลำภู
ไม่มีใครล่วงรู้ถึง พระเมตตาขององค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าหนึ่งเีดียวกับพระบิดาและพระจิตนั้นจะมากมายเพียงใด ยกเว้นแสตนเลย์ผู้นี้ที่สามารถรับรู้และรู้ซึ้งถึงพระเมตตาขององค์พระเยซูเจ้า จากประสบการณ์แห่งพระเมตตาระหว่างท่านกับองค์พระเยซู ซึ่งตลอด 2 ชั่วโมงเต็มท่านได้เล่าประสบการณ์โดยตรงของท่านกับพระเมตตาขององค์พระผู้เป็นเจ้าโดยที่ผู้ฟังสัมผัสถึงความเหน็ดเหนื่อยแม้แต่นิดของท่านมิได้เลย ดังข้อความจากพระคัมภีร์ที่กล่าวว่า "ผู้ที่ได้รับการอภัยมากย่อมรักมาก" ด้วยเหตุนี้คุณสแตนเลย์ ชายชาวพิลิปปินท่านนี้จึงเดินทางไปทั่วโลกเืพื่อประกาศถึง พระเมตตาขององค์พระเยซูเจ้าว่าพระเมตตาของพระองค์ทรงเปิดกว้างเสมอ จงหันหลังให้กับสิ่งชั่วร้ายและเดินทางกลับมายังอ้อมแขนที่พร้อมอ้ารับผู้ซึ่งเคยถูกเรียกว่า คนบาปหนา

พระรูปพระเมตตาที่เดินทางไปกับคุณแสตนเลย์ทุกแห่งทุกหนรูปนี้มีพระพรพิเศษที่ทุกคนสามารถขอพรจากพระรูปพร้อมกับพระรูปแม่พระ พระมารดาขององค์พระเยซูซึ่งพระนางได้รับขนานนามว่าเป็นที่หลบลี้ภัยของคนบาปทั้งหลาย ก็ถูกตั้งไว้พร้อมกันเพื่อทุกคนจะได้ขอพรจากพระรูปทั้งรูปนี้ ดังนั้นเมื่อโอกาสดีมาถึงชาวหนองบัวลำภูของเราก็ขอพรกันยกใหญ่เลยทีเดียว

หลังจากการบรรยายเสร็จสิ้น ตัวแทนชาวหนองบัวลำภู คุณไพบูลย์ แก่งมงคล ได้กล่าวขอบคุณ คุณแสตนเลย์ ในโอกาสที่ท่านได้นำพระเมตตาขององค์พระเยซูเจ้ามาสู่ชาวเราทุกคน

คุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก เจ้าอาวาสวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแิอลได้มอบของที่ระลึกเพื่อแสดงการขอบคุณแด่คุณแสตนเลย์

เมื่อคนดังมาเยือนถึงถิ่นขนาดนี้แล้วจะไม่ชักภาพหรือขอลายเซ็นต์ก็คงเสียใจไปชั่วชีวิต น้องๆ เยาวชนวัดของเราก็ร้องขอคุณแสตนเลย์ให้ร่วมถ่ายภาพหมู่กับน้องๆ เยาวชนวัดของเรา เพื่อเก็บไว้เป็นภาพประวัติศาสตร์ เผื่อในชีวิตหน้าหวังว่าน้องๆ คงได้โพสต์ท่าอย่างนี้กับคุณแสตนเลย์อีกนี่ครับเนี๊ย!!! อย่าหายไปสักคนน่ะครับคุณน้อง คุณแสตนเลย์อุตส่าห์นำมาพระเมตตามาส่งถึงที่ อิอิ!!

รับประทานอาหารว่างร่วมกันหลังจากจบการบรรยาย ในโอกาสนี้ชาวหนองบัวลำภูขอขอบคุณ คุณแสตนเลย์และทีมงานเป็นอย่างสุงที่เลือกวัดคาทอลิกหนองบัวลำภูสำหรับการแบ่งปัน และที่ขาดมิได้ขอขอบคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ประทานชายผู้นี้ให้นำพระเมตตาของพระองค์มาสู่ชาวเรา

วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หนึ่งชีวิตเพื่อหลายชีวิต

ชายชรา สูงโปร่ง ท่าทางใจดี มีใบหน้าที่อมยิ้มตลอดเวลา ใครๆเห็น ก็คงอดสงสัยไม่ได้ว่า ชายผู้นี้เป็นใคร มาจากไหน ทุกๆ วันอาทิตย์ ในโบสถ์คาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล จะเห็นท่านนั่งด้วยความสำรวม ถัดจากท่าน จะแวดล้อมไปด้วยน้องเยาวชนบ้านแม่มารีย์ ชายผู้สูงอายุ คนนี้ สำหรับคาทอลิกหนองบัวลำภู คงทราบดีว่าท่าน คือ ใคร แต่สำหรับชุมชนอื่น คงไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร ในเดือนกรกฎาคมนี้ เราปรารถนาให้ท่านผู้อ่าน ได้สัมผัสและรู้จัก นักบวชชายคณะ SVD ที่อุทิศตนเพื่องานของพระเป็นเจ้า....

บราเดอร์เดเมียน ดักกลาส ลันเดอร์ส นักบวชคณะ SVD

ก่อนมาเมืองไทยบราเดอร์เคยทำงานแพร่ธรรมที่ไหน?

“ก่อนที่ผมจะมาทำงานที่เมืองไทย ผมทำงานแพร่ธรรมที่ประเทศปากัวนิวกินี ตั้งแต่ ค.ศ. 1969 วาระแรกที่ผมทำงานเป็นเวลา 15 ปี หลังจากนั้นก็กลับมาที่สหรัฐอเมริกา ระยะหนึ่ง และกลับไปที่ประเทศปากัวนิวกินีอีกครั้ง ทำงานแพร่ธรรมอีก 20 ปี เป็นเวลาที่ยาวนานมาก”

บราเดอร์มาเมืองไทยเมื่อไหร่และได้ทำงานกับผู้ติดเชื้อ HIV อย่างไร?
“ผมเข้ามาเมืองไทย เดือนมีนาคม ค.ศ 1999 พร้อมกับบราเดอร์เจมส์ วิวคิ้น คณะนักบวช SVD ผมเรียนภาษาไทย 1 ปี เดือนมีนาคม ปี 2000 ผมได้รับคำสั่งจากพระคุณเจ้ายอด ซึ่งเป็นประมุขของสังฆมณฑลในขณะนั้น ให้มาทำงานที่หนองบัวลำภู เพื่อช่วยเหลือและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บ้านนิจจานุเคราะห์ ซึ่งเวลานั้นเป็นหน่วยงานคาทอลิก แห่งเดียวในจังหวัดหนองบัวลำภู”

บราเดอร์ได้ข้อคิดอะไรเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานที่หนองบัวฯ?

“ผมได้รับความสุขจากการทำงาน มีความยากลำบากบางอย่างเกี่ยวกับภาษาไทย แต่งานของบ้านนิจจาฯ ก็ดำเนินงานอย่างดี เพราะมีเจ้าหน้าที่ ที่ช่วยเหลือและร่วมมือในการทำงาน”

บราเดอร์ได้รับผิดชอบการสร้างอาคารและการทำโครงการต่างๆ บราเดอร์ทำสิ่งเหล่านี้สำเร็จได้อย่างไร
“2 ปีแรก ได้ออกไปเยี่ยมเยียนคนในชุมชนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ได้เห็นถึงความต้องการ และการพัฒนาศูนย์ของเรา ในเรื่องของอาคาร สถานที่ และมีโครงการต่างๆที่เราจะต้องพัฒนา ในช่วงนี้เอง ผมก็เขียนโครงการไปขอทุน เพื่อที่จะสร้างอาคารบ้านนิจจาฯ และวัดคาทอลิก ตอนแรกก็ได้รับการสนับสนุนสำหรับกิจกรรม หลังจากนั้นก็ได้รับทุนสร้างอาคาร สถานที่ จากการสนับสนุนคาทอลิกผู้มีน้ำใจดีที่กรุงเทพ และต่างชาติ สุดท้ายเราก็มีงบประมาณเพียงพอกับการสร้างบ้านนิจจาฯและวัดคาทอลิก ในเวลานั้นก็มีความคิดว่าควรจะมีบ้านสำหรับเด็กติดเชื้อเฮชไอวีด้วย 2 ปีต่อมา คณะคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกาตา ได้มาร่วมมือในการดูแลบ้านเด็ก หลังจากนั้นก็เห็นความต้องการให้มีบ้านพักฟื้นสำหรับผู้ใหญ่ ได้มีการปรับเปลี่ยนบ้านนิจจาฯ เป็นบ้านพักฟื้นสำหรับผู้ใหญ่"

บางคนกล่าวว่า”บราเดอร์มีเงินเยอะ” บราเดอร์รู้สึกอย่างไรกับคำพูดนี้

“รู้สึกหงุดหงิดรำคาญ บางครั้งผมก็รู้สึกโมโห ที่จริงมันดูเหมือนว่า ผมมีเงินมากมาย แต่เงินที่ผมมี ได้มาจากการบริจาค ทุกคนที่มีน้ำใจดีและต้องการอยากจะช่วยเหลือชาวบ้านในหนองบัวลำภู โดยเฉพาะผู้ที่ยากจนและผู้ป่วยที่ติดเชื้อ เฮชไอวี ผมมีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายของบ้านนิจจาฯ และกิจกรรมโครงการต่างๆ ของหน่วยงาน เช่น จัดอบรมเยาวชนเรื่องโรคเอดส์ ฯลฯ แต่ผมไม่มีเงินเหลือล้น”

อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการทำงานในจังหวัดหนองบัวลำภู คืออะไร

“ความหวังและความฝันของผม ก่อนที่จะเกษียณ การที่เรามีงบประมาณที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของบ้านนิจจาฯ เพื่อให้การดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆเป็นไปอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างขอฝากไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า”

อะไรทำให้บราเดอร์มีความสุขมากที่สุด?
“ผมมีความสุข(อมยิ้ม) ที่ได้เห็นหลายคนได้รับความช่วยเหลือจากเรา และหลายคนที่ก้าวเข้ามาหาเรา กลับบ้านด้วยสุขภาพที่ดีขึ้น ผมมีความสุขที่ได้เปิดบ้านสำหรับเยาวชน ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นน้ำพระทัยของพระองค์ เช่นกัน ช่วงแรกๆ มีการปฏิเสธมากมายจากองค์กรต่างๆ ที่เราขอทุน บางครั้งก็รู้สึกท้อใจ และอยากจะยอมแพ้ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่า ถ้าโครงการทั้งหมดนี้ เป็นไปได้ เราก็จะได้รับความช่วยเหลือ และก็เป็นจริง ความช่วยเหลือก็เกิดขึ้น”

ปัจจุบันนี้บราเดอร์ห่วงใยงานอะไร
“ผมเป็นห่วงเกี่ยวกับงานที่กำลังดำเนินอยู่ หวังว่าทุกอย่างจะดำเนินการต่อไป ได้รับการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

พระเจ้ามีบทบาทอย่างไรในงานของบราเดอร์?
“พระเจ้าทรงมีบทบาทต่อผมมาก ถ้าไม่มีพระเจ้า งานของเราในการพัฒนาจังหวัดหนองบัวลำภู ก็จะเป็นไปไม่ได้ในฐานะที่ผมเป็นนักบวช ผมรู้สึกว่าตนเองเป็นเครื่องมือในการพัฒนาหนองบัวลำภู ”

บราเดอร์รู้สึกอย่างไรเมื่อมองสิ่งที่เกิดขึ้นในชุมชนคาทอลิกหนองบัวลำภู?
“ผมมีความสุข ดีใจ ที่เห็นชีวิตใหม่ กำลังเกิดขึ้น ภายในและภายนอกรั้วบ้านนิจจาฯ และวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล เป็นส่วนสำคัญของชีวิตใหม่ ชุมชนคาทอลิก มีสามชิกของคณะที่ยังหนุ่ม มาร่วมงานที่นี่ เพื่อที่จะทำให้อนาคตของวัดและบ้านนิจจาฯมั่นคงขึ้น”

จำพรรษา

ทุกๆปี ในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม เป็นช่วงเวลาที่ชาวนา เฝ้ารอคอย ฟ้า ฝน จากฟากฟ้าโปรยลงสู่พื้นดิน เมื่อฟ้า ฝนเป็นใจ มีน้ำเพียงพอ เป็นสัญญาณแห่งฤดูกาลทำนา เสียงรถอีแต่น วิ่งผ่านหน้าบ้าน คันแล้ว คันเล่า ในขณะที่ฟ้ายังไม่สาง ชาวนาเริ่มทำนา เป็นอาชีพที่ใช้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ในขณะเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกันนี้ อีกมุมหนึ่งในใจกลางของหมู่บ้าน พระภิกษุ จำพรรษาอยู่ที่วัด ศาสนิกชนแต่งชุดขาว ถือศีล ภาวนา หรือที่คนไทยอีสาน จะคุ้นเคยกันดีว่า เมื่อถึงเวลาทำนา ก็เป็นช่วงเวลากับวันสำคัญทางพุทธศาสนา คือ “วันเข้าพรรษา”

ในสารวัดเดือนนี้ เราได้รับเกียรติจาก พระอาจารย์ประทวน ปิยธฺมโม เจ้าอาวาสวัด ป่าคำไก่แก้วสวรรค์ ได้เล่าความสำคัญของวันสำคัญต่างๆในทางพุทธศาสนา ให้เป็นวิทยาธารสำหรับทุกท่าน

พระอาจารย์ : วันสำคัญทางศาสนาพุทธ จะมีวันมาฆบูชา วันวิ-สาขบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา กฐิน วันอาสาฬหบูชา แต่ในที่นี้เราจะพูดถึง วันเข้าพรรษา เพราะเหลืออีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเข้าพรรษาประวัติ วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น "เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน พระอาจาร์ยเล่าต่อว่า จะมีคำอธิษฐานสำหรับพระภิกษุในช่วงเข้าพรรษา คือ อิมัสมิง อาวา เสอิมัง เตมาสัง วัตสัง อุเปมิ(3จบ)

อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของพระภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญรักษาศีล และชำระจิตใจให้ผ่องใส จะถือศีลภาวนาเหมือนพระก็ได้ ตลอดระยะเวลา 3 เดือน หรือจะถือศีลในช่วงวันพระเป็นพิเศษก็ได้
พระอาจารย์ฝากข้อคิดสำหรับเราทุกคนว่า
พระอาจารย์ อยากจะให้โลกใบนี้ มีความเมตตา มีความเกื้อกูล มีความเป็นพี่น้องกัน รู้จัก แบ่งปัน ความดี ความรัก และที่สุดอยากให้โลกเรามีความสงบร่มเย็น..เจริญพร หมออนามัย คุณบุษบา จรพัทลุง พยาบาล ประจำสถานีอนามัยดอนยานาง มีข้อตั้งใจ ในการปฏิบัติตนในวันเข้าพรรษา ว่า“ในฐานะที่ตัวเอง เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง ก็มีความตั้งใจว่า จะรักษา ถือศีล 5 และศีล 8 ช่วงเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน โดยจะถือศีลภาวนา เป็นพิเศษในวันพระ”

เมื่อท่านได้อ่านคำบอกเล่า ของพระอาจารย์ ซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ได้รับคำแนะนำถึงการปฏิบัติตนของพระภิกษุและศาสนิกชน พระอาจาร์ยยังได้ฝากข้อคิดดีๆสำหรับคนไทยทุกคน ที่ต้องยึดถือและปฏิบัติตาม เฉกเช่นเดียวกับคาทอลิกที่ดำเนินชีวิตบนพื้นฐานแห่งความรัก

สำหรับคาทอลิกเรา คงไม่แตกต่างจากพุทธศาสนิกชน คาทอลิกก็มีเทศกาลที่มีความหมายและความสำคัญที่ต่างกัน ดังนั้น เราควรให้ความสำคัญกับศาสนาที่ตนเองยึดถือ หมั่นศึกษาและเรียนรู้ ในรูปแบบของความเชื่อที่เราถือปฏิบัติมา
ในปีนี้ "วันเข้าพรรษา" จะตรงกับวันอังคาร ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 อย่าลืมไปวัดนะค่ะ
ครูแหม่ม

สารวัดเดือน กรกฎาคม 2010









วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เชิญร่วมบริจาคสำหรับบ้านพักร่วมใจ


ข่าวกิจกรรมวัด เดือน ก.ค. 2010


โครงการส่งเสริมทักษะชีวิตเด็กและเยาวชน

เปิดสอนภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และกีตาร์ขั้นพื้นฐาน หากผู้ปกครองท่านใดสนใจ ติดต่อสอบถามที่วัดคาทอลิกอ
ัครเทวดามีคาแอล โทร.086-1133887

เริ่มแล้วทักษะชีวิตสู่สังคมอย่างมีสุข

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2553เปิดทำการเรียนการสอนทักษะชีวิตมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม 37 คนเริ่มกิจกรรมทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.45-10.45 น. โทร.086-1133887


นักเรียนคำสอนรุ่นที่ 2 ปี 53

มีนักเรียนคำสอน เรียนรับศีลกำลัง จำนวน 5 คน
นักเรียนคำสอนเรียนรับศีลมหาสนิท จำนวน 6 คน
นักเรียนคำสอนเรียนรับศีลล้างบาป จำนวน 2 คน

ดำเนินการสอนโดย.. ครูแหม่ม

นักเรียนสอนโดยคุณพ่อแอนโทนี่ มี 3 คน เรียนรับศีลมหาสนิทและกำลัง และ 6 คน เรียนคำสอนเพิ่มเติมหลังที่ได้รับศีลกำลังแล้ว

เยี่ยนเยียนสัตบุรุษ

“เราเป็นนายชุมพาบาลที่ดี เราตามหาแกะที่พลัดหลง ให้กลับเข้ามาสู่ครอบครัวเดียวกัน”

วันพฤหัสบดี ที่ 3 มิถุนายน 2553 คุณพ่อและครูแหม่มออกเยี่ยม สัตบุรุษที่หนองบัวลำภู บุคคลท่านนี้ไม่ใช่ ลูกแกะที่หายไป แต่เป็นปูชนียบุคคล สำหรับชาวหนองบัวลำภู ท่านเป็นผู้สูงอายุที่มีความศรัทธามาก มาวัดทุกวันอาทิตย์ ในฐานะที่เรา ซึ่งเป็นลูกหลาน ก็ได้จัดสรรเวลาในการเยี่ยมผู้สูงอายุ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับท่าน ท่านมีความสุขและยิ้มแย้ม ต้อนรับแขกผู้มาเยือนเป็นพิเศษ ขอบคุณ คุณพ่อ ครูแหม่มและต้องขอบคุณคุณตาชูสง่า ด้วยค่ะ โอกาสหน้าจะมาเยี่ยมท่านใหม

ประกาศแจ้งเปลี่ยนเขตจากสังฆมณทล

คณะกรรมการด้านงานอภิบาลของสังฆมณทลอุดรธานีโดยพระสังฆราชยอแซฟ ลีอชัย ธาตุวิสัย เป็นประธาน ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงสังกัดเขตการทำงาน เดิมวัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอลหนองบัวลำภูขึ้นกับเขตอุดรธานี ได้เปลี่ยนแปลงให้ขึ้นกับเขตเมืองเลย โดยคุณพ่อแฟรงคลิน มีลาซอล เป็นหัวหน้าเขตเมืองเลย

สารวัดเดือน มิ.ย. 2010: สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส


พี่น้องที่เคารพรัก

ช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เสถียรภาพในด้านต่างๆ ขาดความสมดุล lkiซึ่งจะสังเกตุได้จากรอบตัวเรามีสัญญาณบ่งชี้ถึงความวิตกกังวลต่างๆนานา ไม่ใช่แค่ในชุมชนของเราหรือว่าในประเทศไทย แต่รวมถึงโลกทั้งโลกเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญความวิตกกังวลในเรื่องของเยาวชนว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเยาวชนในครอบครัวและในชุมชนของเรา ซึ่งก็อดเป็นห่วงบรรดาเด็กๆ เยาวชนไม่ได้ถึงปัญหาติดเกมส์ ติดโทรศัพท์บ้าง และสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ก่อให้ประโยชน์ในชีวิตของพวกเขา

ในทำนองเดียวกันต้องยอมรับว่ามีความวิตกกังวลไม่น้อยในเรื่องของผู้นำประเทศ จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นวิกฤติของประเทศด้วยวิธีการใด เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาโดยเฉพาะความยากจนในประเทศของเรา ถ้าหากมองสถานการณ์ของโลกตอนนี้เกิดความขัดแย้งของนานาชาติ สถานการณ์ของโลกกำลังเปลี่ยนไป อาจจะนำมาซึ่งความพินาศอันใหญ่หลวงที่มาจากน้ำมือของมนุษย์เอง ซึ่งประเด็นต่างๆ เหล่านี้ก็ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ตัวการที่สำคัญที่ทำลายมนุษย์ก็คือตัวของมนุษย์เอง

ประเด็นปัญหาเล่านี้ถูกยกขึ้นมาพร้อมกับทัศนคติในแง่ลบโดยปริยาย แต่อย่างไรก็ดีในฐานะของผู้ติดตามองค์พระเยซูเจ้าชีวิตของเราจะจมปลักอยู่กับทัศนคติเก่าๆ ไม่ได้ ในทางตรงกันข้ามเราได้รับการเรียกให้ทำกิจการซึ่งจะช่วยให้ปัญหาต่างๆให้ทุเลาลงกว่าที่เป็นอยู่ เราต้องทำดังนี้ทั้งส่วนตัวและพร้อมกับชุมชน วัดของเราก็จัดโปรแกรมหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความเป็นหมู่คณะให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่และหนึ่งในโปรแกรมที่ใหญ่ที่สุดซึ่งเรากำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้คือการสร้างบ้านพักร่วมใจซึ่งจะเปิดให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักพิงชั่วคราวขณะเดียวกันก็ให้บริการกับน้องๆเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาเยาวชนกับวัดของเรา

หลังจากได้รับการอนุมัติให้ใช้สถานที่จากทางสังฆมณทลผู้ถือกรรมสิทธิ์ในบ้านและที่ดินแปลงนี้ซึ่งตั้งอยู่หลังโรงพยาบาลประจำจังหวัด ซึ่งต้องปรับปรุงซ่อมแซมให้พร้อมสำหรับการพักอาศัยและต้องจัดหาอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนและสิ่งที่จำเป็นสำหรับบ้านหลังนี้อีกจำนวนหนึ่ง

ในเวลานี้เราพยายามร้องขอจากชุมชนวัดของเราและเพื่อนพี่น้องที่เรารู้จักในชุมชนที่จะช่วยบริจาคสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการใช้สอยภายในบ้าน ซึ่งการขอบริจาคนี้จะทำให้พวกเราได้มีส่วนในการก่อตั้งบ้านหลังนี้ มันอาจจะไม่ใช่จำนวนมากมายแต่ก็เป็นความพยายามที่ช่วยให้โครงการนี้บรรลุผล

สังคมของเราในขณะนี้เต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ ก่อให้เกิดความวิตกกังวลตามมา ต้นไม้เพียงต้นเดียวไม่สามารถยืนหยัดต้านน้ำวินาทที่กำลังเดินทางมาแต่ผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้แน่นอนว่ามันต้านน้ำวินาทได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากทุกคนร่วมในการเป็นต้นไม้ในผืนป่าใหญ่ที่ยืนหยัดต่อต้านน้ำวินาทที่มาพร้อมกับการมองโลกในแง่ร้าย ความเย็นเฉยไม่กระตือรือร้น เชิญพวกเราดำเนินชีวิตด้วยความพยายามอย่างแท้จริงในการเป็นคริสตชนที่ดีผู้ซึ่งนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ชุมชนวัดและโลกของเรา