วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายการสรรเสริญความรักพระเจ้า

19 ธันวาคม 2010



ช่วงรายการ
1.เพลง เห็นดาวทอง
2.แนะนำรายการ
3.ส.ค.ส.จากคุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก เจ้าอาวาสวัด
4.บทเพลง คริสต์มาสเป็นเวลาแห่งความรัก
5.บทเพลง จงฟังเพลงแห่งทูตสวรรค์
6.ประวัติคริสต์มาส
6.บทเพลง บทเพลงดวงดาว
7.บทเพลง ขอเชิญท่านผู้วางใจ
8.พระวาจาของพระเจ้า
9.บทเพลง เราคือสามโหรา
10.บทเพลง ความสุขยินดีมีแค่ชาวเรา

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายการคาทอลิกบอกเล่าเก้าสิบ โดย วัดอัครเทวดามีคาแอล

สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จ
19 ธันวาคม 2553



ช่วงรายการ
1.สปอร์ตเริ่ม
2.แนะนำรายการ
3.ส.ค.ส จากคุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก เจ้าอาวาส
4.บทเพลง คริสต์มาสเป็นเวลา
5.แรงบันดาล เรื่อง คริสต์มาส
6.บทเพลง ความสุขเปรมปรีดิ์มีแก่ชาวโลกา
7.ประวัตินักบุญ ยอห์น อัครสาวก
8.พระวาจาประจำสัปดาห์
9.อธิบายพระวาจากับบาทหลวงพงษ์เทพ ประมวลพร้อม
10.บทเพลงดาราประกายแจ่มฟ้า
11.นิทาน ขนมปังเพียงก้อนเดียว
12.บทเพลง ถ้ำเบธเลเฮม
13.สปอร์ตจบ

วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประมวลภาพงานชุมนุมปิดปีพระวาจา และฉลองบ้านเณรสันติราชา

10 ธันวาคม 2553 ณ สถานฝึกธรรมสันติราชา อูดรธานี

















รายการคาทอลิกบอกเล่าเก้าสิบ โดย วัดคาทอลิกอัครเทวดามีคาแอล

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตสมภพ



ช่วงรายการ
1.สปอร์ตเริ่ม
2.แนะนำรายการ
3.ประชาสัมพันธ์งานคริสต์มาส
4.บทเพลง ทั่วโลกา
5.แรงบันดาลใจ ประวัติคริสต์มาส
6.เห็นดาวทอง
7.ประวัตินักบุญ ยอห์นแห่งไม้กางเขน
8.พระวาจาประจำสัปดาห์
9.ประชาสัมพันธ์ งานคริสต์มาส
10.อธิบายพระวาจาประจำสัปดาห์ โดยบาทหลวงพงษ์เทพ ประมวลพร้อม
11.บทเพลง OH Come let us adore him
12.บทเพลง ขอเชิญท่านผู้วางใจ
13.นิทาน บทเทศน์
14.ประชาสัมพันธ์งานคริสต์มาส
15.สปอร์ตจบ

รายการสรรเสริญพระเจ้า

12 ธันวาคม 2553



ช่วงรายการ
1.สปอร์ตเริ่ม
2.แนะนำรายการ
3.บทเพลง ขอเชิญท่านผู้วางใจ
4.ประชาสัมพันธ์งานคริสต์มาส
5.ประวัติการบังเกิดพระเยซู
6.บทเพลงก้าวต่อไป
7.ประชาสัมพันธ์บ้านพักร่วมใจ
8.บทเพลงขอให้ลูก
9.กิจการของพระเยซูเจ้า
10.ประชาสัมพันธ์งานคริสตมาส
11.บทเพลงเห็นดาวทอง

พระวรสารวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี A

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายการคาทอลิกบอกเ่ล่าเก้าิสิบ โดย วัีดอัครเทวดามีคาแอล

สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า



ช่วงรายการ
1.สปอร์ตเริ่ม
2.แนะนำรายการ
3.แรงบันดาลใจ เรื่อง กิจกรรมวัดตลอดเดือนพฤศิจายน
4.เพลง ต้นไม้ของพ่อ
5.ประวัตินักบุญยอห์นแห่งดามัสกัส
6.พระวาจาประจำสัปดาห์
7.บทเพลง เห็นดาวทอง
8.อธิบายพระวาจาโดย บาทหลวง พงษ์เทพ ประมวลพร้อม
9.ประชาสัมพันธ์งานคริสตมาส
10.นิทาน ทางลัด
11.บทเพลง ขอเชิญท่านผู้วางใจ

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รายการสรรเสริญพระเจ้า

5 ธันวาคม 2553



1.สปอร์ตเริ่ม
2.แนะนำรายการ
3.บทเพลง อัญเชิญองค์พระมหาไถ่
4.ประชาสัมพันธ์งานสมโภชคริสต์มาส
5.บทเพลง ขอเชิญท่านผู้วางใจ
6.เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ คริสต์มาส
7.ละครประวัติวันคริสตมาส
8.บทเพลง ก้าวต่อไป
9.ประชาสัมพันธ์บ้านพักร่วมใจ
10.บทเพลง ขอให้ลูก
11.กิจการของพระเยซูเจ้า
12.บทเพลงข้าแต่พระบิดา
13.ประชาสัมพันธ์งานสมโภชคริสต์มาส
14.บทเพลง เห็นดาวทอง

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เตรียมเสด็จพระคริสตเจ้า(สารวัดเดือนธันวาคม 2010)

ในช่วงเทศกาลแห่งการเตรียมรับเสด็จ วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู ได้จัดวจนพิธีกรรมเพื่อให้สัตบุรุษวัด ได้ใช้ช่วงเวลานี้ในการรำพึงไตร่ตรองแผนการของพระเจ้า และมุ่งเชื้อเชิญให้เราพิจารณาบุคคลที่พระเจ้าได้ทรงเลือกและทรงเตรียมไว้ เพื่อให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธรรมล้ำลึกเรื่องการรับสภาพมนุษย์ของพระบุตร ดังนั้นเพื่อให้ความหมายของการเตรียมรับเสด็จ มีความสำคัญและเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้นฝ่ายพิธีกรรม ขอนำเสนอบทเขียนของคุณพ่อเอกรัตน์ หอมประทุม มาแบ่งปันให้พี่น้องได้ทราบถึงหัวใจสำคัญของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ..

สำหรับเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เรามีเวลาสี่สัปดาห์เพื่อเตรียมตัวเตรียมจิตใจไว้รับเสด็จองค์พระมหาไถ่ ความจริงแล้วพระคริสตเจ้ามิได้เสด็จมาเฉพาะในวันคริสตมาสเท่านั้น แต่พระองค์เสด็จมาหาเราทุกวัน ทุกเวลา ทุกโอกาส เพียงแต่ว่าเราไม่ได้รับรู้เท่านั้น ถ้าเรามีความเชื่อเราก็จะรู้ว่า พระองค์เสด็จมาหาเราเสมอๆ ทางพระวาจาทางพิธีกรรม โดยเฉพาะบูชามิสซาขอบพระคุณ ทางเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ทางบุคคลทั้งหลายที่เราได้พบปะในชีวิตประจำวัน ฯลฯ เราจะต้องเตรียมจิตใจไว้ให้พร้อมที่จะต้อนรับพระองค์เสมอ ในการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าเราอาจมองได้....2....ความหมาย 1. โลกและสรรพสิ่งจะต้องมีวันสิ้นสุดนั่นคือ “วันสิ้นโลก” และ พระเยซูคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งในวันนั้นในฐานะพระตุลาการ พิพากษามนุษยชาติ วันนั้นเป็นวันไหนเมื่อไรเราไม่ทราบ พระเยซูคริสตเจ้าบอกกับเราว่า “มีแต่พระบิดาผู้เดียวเท่านั้นทรงทราบ” เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวและจิตใจให้พร้อมอยู่เสมอ 2. วันสิ้นชีวิตของมนุษย์แต่ละคน ก็เป็นวันที่พระเยซูคริสตเจ้าเสด็จมาด้วยและใครจะสิ้นใจเมื่อไรอย่างไรเราก็ ไม่ทราบเช่นเดียวกัน พระวาจาของพระเจ้าเตือนให้เราดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบ ดังที่พระเยซูคริสตเจ้าตรัสว่า “พวกท่านจงเตรียมพร้อมอยู่เสมอเพราะพวกท่านไม่รู้วันเวลา”

เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า จึงไม่ใช่เทศกาลเตรียมสมโภชการบังเกิดมาของพระเยซูคริสตเจ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมต้อนรับการเสด็จมาของพระคริสตเจ้าเป็นครั้งที่ 2 ด้วยการเสด็จมาครั้งที่ 2 ของ พระเยซูคริสตเจ้า จะไม่ใช่การบังเกิดมาทารกน้อยนอนในรางหญ้าอีกต่อไป แต่พระองค์จะเสด็จมาเป็นผู้พิพากษามนุษยชาติ ด้วยเหตุนี้เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า จึงไม่ใช่เพียงเทศกาลเตรียมการฉลองรื่นเริงในวันคริสต์มาสเท่านั้น แต่ตรงข้าม ต้องเป็นเทศกาลที่เราต้องจถ้าพบว่าอะไรดีเป็นสิ่งที่ส่งเสริมความเชื่อ ความศรัทธา ทำให้เราเป็นคนดีขึ้นก็ทำต่อไป และขอพลังจากพระเป็นเจ้าให้เราพัฒนาความเชื่อ ความศรัทธา ของเราให้เข้มแข็งมากขึ้นอยู่เสมอ ถ้าพบความบกพร่อง เราต้องเปิดใจรับความจริงและแก้ไข ลำพังตัวเราเองคงทำอะไรไม่ได้เราจึงต้องขอพลังจากพระเป็นเจ้าอีกเช่นกัน

ในโอกาสที่กำลังเข้าสู่บรรยากาศเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้านี้ ให้เราถามตัวเราเองว่า เราพร้อมหรือไม่ที่จะนำพระผู้ไถ่ไปสู่คนอื่น เราได้นำพระผู้ไถ่ไปสู่คนอื่นหรือยัง เราจะทำริงจังกับชีวิตมากขึ้น เปิดบัญชีชีวิตขึ้นอ่านทบทวน

จิตตารมณ์เยาวชน "อุทิศตนและเสียสละ"(สารวัดเดือนธันวาคม 2010)



ทักษะชีวิต น้องๆ เยาวชนวัดของเรากลับเข้าสู่การเรียนทักษะชีวิต อีกครั้งในเทอม 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7พ.ย.53 ซึ่งกิจกรรมมีรูปแบบที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากเทอมแรกซึ่งจะมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ทักษะด้วยตัวเองมากขึ้นตามคำแนะนำของผู้สอน ซึ่งน้องๆ เยาวชนได้ให้การตอบรับกิจกรรมอย่างดีเยี่ยม และทางวัดของเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า น้องๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมทักษะชีวิต จะเติบโตขึ้นมาพร้อมกับกระบวนการทางธรรมชาติคือการบรรลุนิติภาวะอย่างสมบูรณ์และบริหารจัดชีวิตอย่างมีทักษะด้วย

เอ็นสะท้านรึเปล่า
ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างมาก สำหรับน้องๆ นักเรียนชั้น ม.6 ซึ่งหลายๆ คนกำลังตัดสินใจในการเลือกสถาบันอุดมศึกษาสักแห่งหนึ่งเพื่อศึกษาต่อในอีกระดับหนึ่งที่มีความยากง่ายกว่าระดับมัธยมศึกษา และทางวัดของเรามีเยาวชนที่อยู่ในเกณฑ์นี้ 4 คน คือ น้องเกด แตง เมย์ และแป้ สารวัดของเราจึงขอเป็นกำลังใจสำหรับน้องๆ เยาวชนของเราให้ได้เข้าศึกษาต่อในสถาบันที่น้องๆ ทั้ง 4 คนตั้งใจไว้ และขอคำภาวนาจากท่านผู้อ่านสารวัดทุกท่านเพื่อน้องเยาวชนวัดของเราด้วยน่ะครับ

รางวัลอันทรงเกียรติ

เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2553 มีกิจกรรมปิดปีพระวาจาเขตเมืองเลย ซึ่งวัดของเราสังกัดเขตเมืองเลย และในวันนั้นมีกิจกรรมหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งกิจกรรมในช่วงบ่ายนั้นเป็นการประกวดร้องเพลงหมอลำลูกทุ่งพระคัมภีร์ ซึ่งวัดของเรามีตัวแทนเยาวชน 2 คนเข้าประกวดในครั้งนี้คือ น้องรัตน์และ น้องกระถิน ซึ่งผลการประกวดร้องเพลงนั้นปรากฏว่าน้องทั้งสอง คนนั้นได้คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 มาครองได้อย่างภาค
ภูมิใจ ขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทั้งสองคนด้วย(แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้าม้ารึเปล่าที่ช่วยส่งเสียงกลบเสียงร้องที่อาจผิดคีย์บ้างหรืออาจจะเป็นเพราะว่าผู้เข้าประกวดมีแค่สามทีม 55+)

http://udondiocese.cbct.net/sarnwat/newsletterDecember2010.pdf

เล่าด้วยภาพ กิจกรรมบ้านนิจจานุเคาระห์ วันเอดส์โลก(สารวัดเดือนธันวาคม 2010)



สืบเนื่องจากวันที่ 1 ธันวาคมของทุกๆ ปีเป็นวันเอดส์สากล สำนักงานบ้านนิจจานุเคราะห์หนองบัวลำภูภายใต้มูลนิธิสงเคราะห์อุดรธานี ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านโรคเอดส์ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู จะได้จัดกิจกรรมวันเอดส์โลก เพื่อเป็ฯการรณรงค์การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู จะได้จัดกิจกรรมวันเอดส์โลก เพื่อเป็นการรณรงค์การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ในปีพุทธศักราช 2553 ภายใต้คำขวัญรณรงค์ทั่วโลก ที่ว่า "สิทธิทางเพศ สิทธิด้านเอดส์ คือสิทธิมนุษยน"(UNIVERSAL ACCESS AND hUMAN RIGHT) กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน/ครูในโรงเรียนมัธยม 20 แห่งที่เคยร่วมทำกิจกรรมร่วมกันสำนักงานบ้านนิจจานุเคราะห์ เจ้าหน้าที่และครอบครัวผู้ติดเชื้อที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์ เพื่อเป็นการรณรงค์และสร้างความรู้เข้าใจ เป็นกำลังใจให้อยู่ใด้อย่างมีความสุข





เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2010 ที่ผ่านมา วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภูได้จัดให้มีวจนพิธีกรรมสำหรับวันรณรงค์วันเอดส์โลก เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงเรื่องของโรคเอดส์และยังเป็นโอกาสที่เราจะได้คิดคำนึงถึงการปฎิบัติต่อกันและกัน พยายามสร้างความสัมพันธ์ ความใกล้ชิด การยอมรับซึ่งกันและกัน มากยิ่งขึ้น ในวจนพิธีกรรมนั้น เราได้มีตัวแทนของผู้ติดเชื้อ เขียนจดหมายถึงผู้ติดเชื้อ เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และเขายังได้เขียนความรู้สึกลึกๆในใจที่อยากจะบอกทุกคนที่ไม่ได้ติดเชื้อ เมื่อทุกคนได้รับฟังเนื้อความในจดหมายนั้น ต่างรับรู้ถึงสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน หลังจากที่เราได้รับฟังจดหมายของผู้ติดเชื้อแล้ว เรายังมีจดหมายสำหรับผู้ที่ไม่ติดเชื้อได้เขียนให้กำลังใจสำหรับผู้ติดเชื้อ และฝากบอกกับทุกคนว่า การอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ เฮช ไอ วี ไม่ได้น่ากลัว หรือติดเชื้อโรคได้ง่าย อย่างที่หลายๆคนกลัวกัน

ในวจนพิธีกรรม เราทุกคนมีส่วนร่วมในการภาวนาสำหรับผู้ติดเชื้อ นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังค้นหาแนวทางในการรักษา หน่วยงานหรือองค์กร และทุกท่านที่ได้ช่วยเหลืองานในด้านผู้ติดเชื้อ หลังจากร่วมพิธีกรรมทางศาสนาเสร็จสิ้นแล้ว ทางวัดก็มีกิจกรรมการแจกของบริจาค เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง สำหรับผู้สูงอายุที่ยากจนในหมู่บ้านและกลุ่มผู้ติดเชื้อ บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากโรคดังกล่าว การบริจาคครั้งนี้ มีผู้อุปการะชาวฮ่องกงจากมูลนิธิซันไซน์แอ๊คซั่น( Sunshine Action) ให้การสนับสนุน ในการนี้ชาวสหรัฐอเมริกา ได้ให้การบริจาคเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ สำหรับสำนักงานบ้านนิจจานุเคราะห์ บ้านแม่มารีย์ และรองเท้าสำหรับบ้านเด็กคุณแม่เทเรซา ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ หลังรับประทานอาหารเที่ยง ชาวฮ่องกง เดินทางเยี่ยมครอบครัวที่ยากจนและผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ที่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์วันเอดส์โลก ประมาณ 200 คน จากหมู่บ้านนาลาดควาย กลุ่มผู้ติดเชื้อ และชุมชนวัดอัครเทวดามีคาแอล

http://udondiocese.cbct.net/sarnwat/newsletterDecember2010.pdf

ค้นพบธรรมฑูตแห่งขุนเขา(สารวัดเดือนธันวาคม 2010)


ท่ามกลาง แสง สี ความมืดมิดที่ปกคลุมบนท้องถนน เราได้ยินเสียงรถวิ่ง ทุกอย่างดูเงียบสงบ ภายใต้รถทัวร์ วี ไอ พี มุ่งตรงสู่เมืองเชียงใหม่ ขุนเขาที่หลายๆคน เคยใฝ่ฝันที่จะท่องเที่ยว แต่ระยะเวลาแห่งการเดินทาง อันยาวนานคงจะทำให้หลายๆคน ต้องเปลี่ยนใจ เลือกสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ เราเดินทางมาถึงอาเขต ที่เขาเรียกว่า บขส. จุดนัดพบแรก ของการแอ๊ว เชียงใหม่ ผู้คนที่พลุกพล่าน บรรดานักขับทั้งหลาย ต่างเรียกลูกค้า เพื่อรับบริการส่งถึงที่ เรารอรับกระเป๋า สัมภาระเพี๊ยบ ขนมปิ๊ป ที่เราคัดสรรมาอย่างดีเพื่อ เด็กๆ และเยาวชนบนดอย
ทุกอย่าง เหมือนถูกลิขิตไว้ คณะของเรานำทีมโดยคุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก เจ้าอาวาสวัดหนองบัวลำภู ครูแหม่มและน้องโทน ทีมงานวัด ออกค้นหา..งานแพร่ธรรมในรูปแบบเชิงรุก แนวทางใหม่ของงานแพร่ธรรม ของพระศาสนจักรที่กำลังเรียกร้อง ให้ใคร..บางคน.. ที่จะตอบรับในเสียงแห่งงานแพร่ธรรม นี่เป็นการเดินทางสู่เชียงใหม่ครั้งแรกของคุณพ่อแอนโทนี่ และเป็นการระลึกถึงเมื่ออดีตของครูแหม่มและน้องโทน ที่มาแอ๊วเชียงใหม่ แต่การมาครั้งนี้ แตกต่างจาก ครั้งที่ผ่านมา เราได้มารู้จัก กับคณะนักบวชเบธาราม โดยการแนะนำจากผู้ที่มีจิตศรัทธาอันแรงกล้า ในการช่วยเหลือพระศาสนจักรในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ใต้ หรืออีสาน ฆราวาสผู้แพร่ธรรมเหล่านี้บุกถึงที่ เราไม่เคยรู้จักกับคุณพ่อชาญชัย คณะเบธาราม แต่เราก็ปรารถนามาถึงเชียงใหม่ เพื่อที่จะมาเรียนรู้งานจากที่นี่ คุณพ่อมารับ คณะทีมงานที่อาเขต โชดดีมากที่คุณพ่อแต่งตัว ด้วยเสื้อเคอร์ชี่ที่ทำให้เราไม่ต้องเดาเลยว่า คนไหน คือ พ่อชาญชัย เราสวัสดีคุณพ่อ คุณพ่อนำเราสู่บ้านศูนย์กลางเบธาราม ที่เชียงใหม่ เราได้ชำระร่างกาย ทุกอย่างสดชื่น ดื่มกาแฟ โอวัลติน
และยังมีโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อมงคล เกี่ยวกับงานด้านอบรมของคณะเบธารามด้วย บรรยากาศเป็นเหมือนกับเพื่อนสนิท ที่รู้จักกันมานาน แต่หารู้ไม่ว่า เรามารู้จัก ก็ตอนนี้นี่เอง คุณพ่อชาญชัย เริ่มวางแผนที่จะเป็นไกด์ พาเที่ยวงานแพร่ธรรม เมื่อมาถึงเชียงใหม่ทั้งที คืนนี้ เพื่อให้ได้บรรยากาศแห่งความเยือกเย็นสุดขั้ว ที่หมู่บ้านผาหมอน ก่อนออกเดินทางสู่หมู่บ้านแห่งนี้ คุณพ่อชาญชัยและคุณพ่อแอนโทนี่ ก็ถวายมิสซาให้กับเยาวชนบ้านพันธกิจ ซึ่งจะเป็นเด็กชาวดอย ที่มาเรียนและพักอาศัย อยู่ในสถานที่แห่งนี้ เรายังมีโอกาสได้เยี่ยมโรงเรียนแม่ปอน มีซิสเตอร์คณะแม่ปอนดูแลเด็กกลุ่มนี้ มีทั้งเด็กประถมและเด็กป.พิเศษ อะไร คือ เด็ก ป.พิเศษ เด็กกลุ่มนี้ คือ เด็กที่มาเรียนพระคัมภีร์ เมื่อจบแล้วก็กลับบ้านหรือถ้าต้องการเรียนต่อก็ เขียนจดหมายถึงพ่อชาญชัย แล้วคุณพ่อก็จะดำเนินการตามขั้นตอน หรือตามดุลยพินิจของคุณพ่อ มีนักบวชชาย หญิง หรือข้าราชการ หลายท่าน ที่ต้องผ่านโรงเรียนแห่งนี้ ในการอบรม เพื่อมุ่งสู่การศึกษา
เส้นทางที่เรามุ่งไปแต่ละหมู่บ้านนั้น แสนลำบากมาก และเป็นช่วงเวลากลางคืนด้วย การเดินทางในช่วงเวลากลางคืนใน ถนนหลวง คงไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับการขับรถขึ้นดอย บนถนนที่ไม่มีไฟ มีเส้นทางที่รถสามารถผ่านได้ หนทางคดเคี้ยว ถ้าไม่ชำนาญในการขับรถคงไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้ ยอมรับว่าธรรมทูต ที่เข้ามาแพร่ธรรมบนดอย เป็นผู้ที่อุทิศตนในงานแพร่ธรรมจริง ๆ ทุกที่ ที่ไปไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับผู้แพร่ธรรมในยุคโลกาภิวัฒน์ สังคมแห่งความเอื้ออาทรต่อกัน ยังไม่ถูกกลืนในสังคมบนดอย ยังมีคำถามอยู่ในใจว่า ยังมีอีกหรือ กับสังคมที่เอื้ออาทรกันเช่นนี้ สิ่งที่พบและได้สัมผัส นำมาเป็นเชื้อเพลิงของการเป็นธรรมทูตและอาสาสมัครบนดอย บนดินแดน ที่อยู่ไกลแสนไกล ยังมีสิ่งดีๆ หลายสิ่งที่กำลังรอคอยการกลับใจเพื่อมาเป็นครอบครัวเดียวกันของพระศาสนจักร เพราะงานแพร่ธรรม รอคอยบุคคลที่จะตอบรับเสียงเรียกนั้น คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่ตอบเสียงเรียกของพระ ในงานแพร่ธรรม เพราะที่กันดารแห่งนี้ พวกเขาโหยหาองค์พระคริสตเจ้า คุณอาจจะเป็นเครื่องมือในการดับความโหยหานั้น


ผู้เขียนอยากจะบอกว่า เราได้อะไรมากกว่าสิ่งที่คาดหวังไว้ คณะทีมงาน ขอบคุณคุณพ่อชาญชัย ธรรมทูตผู้แพร่ธรรมแห่งขุนเขา ในประสบการณ์ชีวิตที่คุณพ่อมอบให้ สิ่งนี้ ไม่ต้องบรรยายหรือพูดออกมาเป็นคำพูด ทุกสิ่งที่คุณพ่อกระทำนั่นคือ คำบรรยายทั้งปวง พวกเราสัญญาณว่า จะกลับไปอีกครั้งในดินแดนผู้แพร่ธรรมแห่งขุนเขา

กิจกรรมวันรณรงค์ลดโลกร้อน(สารวัดเดือนธันวาคม 2010)


เมื่อวันจันทร์ ที่ 29 พ.ย. 53 คณะทีมงานวัดอัครเทวดามีคาแอล จ.หนองบัวลำภู และอาสาสมัครชาวฮ่องกงจากมูลนิธิซันไซน์แอ๊คซั่น(Sunshine action) ออกเดินทางมุ่งสู่โรงเรียนภูพานทอง อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เพื่อมอบต้นไม้ในกิจกรรมรณรงค์ลดโลกร้อน ตามจุดประสงค์ของผู้บริจาค คือ มิสเตอร์ซันนี่และอัลเฟรด์ ชาวฮ่องกง เมื่อมาถึงโรงเรียนก็ได้รับการต้อนรับจากผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียน ชมการแสดงดนตรีโปงลาง และมอบต้นมะม่วง ต้นมะพร้าว สำหรับเด็กนักเรียนคนละ 2 ต้น เพื่อปลูกที่บ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมเสริมทักษะชีวิตสำหรับเด็ก และเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่อง สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การปลูกฝังค่านิยมที่ดีงาม เห็นคุณค่าในธรรมชาติ ที่ตนเองสร้างขึ้น คณะทีมงาน ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่โรงเรียน เพื่อเป็นที่ระลึก 16 ต้นและปลูกต้นไม้กับนักเรียนที่บ้าน กิจกรรมสุดท้ายสำหรับวันนี้คือ การเยี่ยมผู้สูงอายุที่ยากจนในหมู่บ้านภูพานทอง


http://udondiocese.cbct.net/sarnwat/newsletterDecember2010.pdf

สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส(สารวัดประจำเดือน ธ.ค.53)

สวัสดีพี่น้องคริสตชนและผู้อ่านที่รักทุกท่าน ปีพิธีกรรมเก่าได้ผ่านพ้นแล้ว และปีพิธีกรรมก็ได้เริ่มต้นด้วยเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้ากำลังจะก้าวเข้ามา มองดูแล้วชีวิตเรา เปรียบเสมือนเทศกาลแห่งการเตรียมตัวรับเสด็จพระคริสต์เจ้าที่ไม่มีวันสิ้นสุดซึ่งในช่วงเวลานี้ มีการรอคอยเพื่อที่จะพัฒนา ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองและมีการค้นพบเพื่อที่จะบรรลุถึงเป้าหมายของตัวเอง การคาดหวัง การต่อสู้ ความหวาดกลัว และความสมหวัง ทุกสิ่งล้วนเป็นส่วนประกอบของประสบการณ์ชีวิตในเทศกาลเตรียมรับเสด็จนี้

โลกปัจจุบันนั้นเต็มไปด้วยความไม่สมดุลย์ ไร้ความยุติธรรม และความรัก แต่การเสด็จมาขององค์พระคริสต์เจ้า ที่จะเสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา เป็นบุคคลที่ดำรงอยู่ในหมู่คณะเรา นั่นคือ เหตุผลที่ทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตด้วยความหวัง เพราะว่าแสงสว่างนั้นจะทำลายความมืดมน ความหวาดกลัวและอคติต่างๆที่จะเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตแห่งพระหรรษทาน

เทศกาลเตรียมรับเสด็จ เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมหนทาง แห่งชีวิตเพื่อที่จะต้อนรับพระองค์เข้ามาประทับอยู่ในตัวเรา เป็นค่ายอบรมสำหรับบุคคลที่ปรารถนา ความสันติ สำหรับตนเองและสำหรับโลกทั้งมวล ด้วยการรำพึงภาวนา เราสร้างจิตใจของเราให้เป็นที่เหมาะสมสำหรับการประสูติขององค์สันติราชา

ทุกๆวันในเทศกาลเตรียมรับเสด็จ เราสามารถพิจารณาไตร่ตรองชีวิตตัวเอง ด้วยการตั้งคำถามดังต่อไปนี้ ให้กับตัวเองว่าเรามีอคติ ต่อคนที่มาจากชนชาติ ศาสนา เพศที่ต่างจากเราหรือไม่ ? เรามีจิตใจที่ยังแข็งกระด้างต่อบุคคลที่ทำผิดต่อเรา และสามารถให้อภัยเขาได้หรือไม่? เราดูถูกคนที่มีฐานะหรือการศึกษาต่ำกว่าเราหรือไม่? เรามีจิตใจที่เปิดกว้างในการแบ่งปันพระพรที่เราได้รับจากพระเจ้าให้กับคนอื่นหรือไม่? เราให้เกียรติคนอื่นในด้านความคิดและความต้องการของเขาหรือไม่?คำถามเหล่านี้สามารถเป็นแสงสว่างนำทางเรา เพื่อเดินเข้าสู่หนทางที่ลึกและมืดมิดในจิตใจ ช่วยให้เราเผชิญหน้ากับตัวตนของเรา และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงในชีวิตเรา นี่แหละคือเป้าหมายของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าและเป้าหมายของชีวิตเราทุกคน

ขอพระเป็นเจ้าที่กำลังเสด็จมาถึง จงอวยพรพี่น้องทุกท่าน