วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส


พี่น้องที่รัก ก่อนงานฉลองวัดประจำปี ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับช่างตัดผมซึ่งเป็นช่างประจำ ผมได้ทราบข่าวพยากรณ์อากาศจากช่างตัดผมว่าจะมีฝนตกตลอดเดือนกันยายน เมื่อได้ยินข่าวนี้ ก็รู้สึกกังวลใจเล็กน้อย เพราะงานฉลองวัด กำลังจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 กันยายน และสิ่งที่ช่างตัดผมได้พูดก็เป็นจริง ตลอดสัปดาห์ก่อนจะถึงวันฉลองวัด ไม่มีวันไหนที่พื้นดินจะไม่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง แต่เมื่อถึงวันฉลองวัด ท้องฟ้ากลับแจ่มใส พระอาทิตย์ส่องแสงยามเช้า ไม่มีหยดน้ำฝนให้เห็นแม้แต่หยดเดียว

ชุมชนวัดเล็กๆของเรา ได้รับเกียรติต้อนรับแขกจากสังฆมณฑลอุดรธานี และสังฆมณฑลอื่นๆ รวมทั้งจากกรุงเทพด้วย หนึ่งครั้งในรอบปี ที่ชุมชนเล็กของเราได้พัฒนาและเติบโตขึ้น มีคนจำนวนมากมายมาร่วมงานฉลองวัด ฉลองความเชื่อคาทอลิกกับเรา

คำให้โอวาทตอนท้ายในพิธีบูชาขอบพระคุณ พระคุณเจ้ายอแซฟลือชัย ธาตุวิสัย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู เป็นวัดอินเตอร์ เพราะในงานฉลองวัด ทุกคนได้มองเห็นถึงความหลากหลายซึ่งสะท้อนองค์ประกอบของชุมชนวัด เป็นชุมชนที่ประกอบไปด้วยวัฒนธรรม ชนชาติ ภาษาต่างๆ มีแขกคนหนึ่งที่มาร่วมงานฉลองวัด ได้พูดว่า ช่วงที่รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ได้ยินคนพูดภาษาต่างๆ เช่น ภาษาอินเดียภาษาอังกฤษ ภาษาตากาล๊อก ภาษาอีสาน ภาษาไทยกลาง ภาษาเวียดนาม ในท่ามกลางบรรยากาศที่น่ายินดีมาก ทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

เราเป็นชุมชนที่อินเตอร์จริงๆ เราสะท้อนส่วนเล็กๆของพระศาสนจักรสากล พระศาสนจักรที่จะต้อนรับคนจากทุกวัฒนธรรม ทุกสถานะ คนที่ได้มาร่วมฉลองวัดได้เห็น ได้สัมผัสถึงสิ่งนี้ และมีความชื่นชมในเอกลักษณ์ของวัดเรา

ความคาดหวังของผม คือ ชุมชนวัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู จะเป็นสถานที่แห่งความหลากหลายต่อไป และจะยืนยันถึงสิ่งที่นักบุญเปาโลได้กล่าวว่า

ไม่มีชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่มีทาสหรือไทย ไม่มีชายหรือหญิงอีกต่อไปเพราะท่านทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสตเยซู กท3:28

ประมวลภาพงานฉลองวัด 24 กันยายน 2011


.....พระอาทิตย์ส่องแสงยามเช้า สู่รุ่งอรุณวันใหม่....

เช้าวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2011 คุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก เจ้าอาวาส สภาภิบาลวัดอัครเทวดามีคาแอล นักเรียนคำสอน เยาวชน ให้การต้อนรับสัตบุรุษที่เดินทางมาร่วมฉลองวัดอัครเทวดามีคาแอลกันอย่างล้นหลาม เพื่อมาร่วมฉลองกลุ่มคริสตชนท้องถิ่นที่เราใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ฉลองความภาคภูมิใจในชีวิตคริสตชน และขอบคุณพระเป็นเจ้าที่เรียกเรามาเป็นลูกของพระองค์ ณ วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู

เวลา 10.00 น. พระคุณเจ้ายอแซฟลือชัย ธาตุวิสัย ประธานในพิธี เดินทางมาถึงวัดอัครเทวดามีคาแอล ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่น พระคุณเจ้าพักผ่อนตามอัธยาศัย หลังจากนั้นก็รับชมการแสดง 4 รายการที่เรานำเสนอจากเด็กนักเรียนคำสอน เยาวชนไทย เยาวชนเวียดนาม และครูชาวฟิลิปปินส์ จังหวัดขอนแก่น ก็มาร่วมแสดงพร้อมกับชาวเรา ท่ามกลางวัฒนธรรมที่หลากหลาย สร้างความประทับใจแก่ผู้ชมที่มาร่วมฉลองวัดในวันนี้

เวลา 10.30 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ บรรยากาศตลอดวัน เต็มเปี่ยมไปด้วยไออุ่น พระพร พระหรรษทาน ที่หลั่งไหลมาสู่ชาวเราทุกคน..

มาวัดแล้วได้อะไร


สารวัดฉบับนี้ มีเรื่องราวจากน้องเยาวชนคนหนึ่ง ที่มีความร้อนรนในการร่วมทำกิจกรรมวัด ไม่ว่ากิจกรรมนั้นจะออกแรงมากน้อยแค่ไหน น้องเยาวชนคนนี้ ขอสู้ตายค่ะ ...สู้โว๊ย สวัสดีค่ะ .....

เปิ้ลค่ะเป็นสัตบุรษวัดอัครเทวดามีคาแอลคนหนึ่งในวัดหลังคาสีแดง เปิ้ลเป็นคนมีประวัติค่ะ อะอะอ่าอย่าพึ่งตกใจค่ะ ที่เปิ้ลพูดเช่นนั้นก็เพราะว่า จะเล่าประวัติความเป็นมาของตนเอง ให้พี่น้องได้อ่านค่ะ ก่อนหน้านี้เปิ้ลเป็นคน จ.กาญจนบุรี และนับถือศาสนาพุทธซึ่งไม่ได้เป็นคาทอลิกมาก่อนด้วยเหตุบังเอิญหรือกระแสเรียกของพระเป็นเจ้าก็มิทราบทำให้เปิ้ลได้มาเข้าโบสถ์ครั้งแรกที่ จ.หนองบัวลำภู 2 เดือนก่อนที่เปิ้ลจะมาอยู่ จ.หนองบัวลำภู เปิ้ลได้ฝันแปลกๆและเป็นครั้งแรกที่เปิ้ลฝันเช่นนี้ เปิ้ลฝันเห็นตู้ใบเล็กๆ 1ใบ มีขนาด 4 เหลี่ยมมีแสงไฟออกมารอบๆ ตู้นั้น ซึ่งเปิ้ลก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรและเปิ้ลก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก แต่เมื่อเปิ้ลมาอยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู เปิ้ลก็ได้เห็นตู้ใบนั้นอีกครั้งหนึ่ง คาทอลิกเขาเรียกกันว่า ตู้ศีลมหาสนิท อัศจรรย์ใจมากทีเดียว เปิ้ลได้เข้าโบสถ์ ทุกวันอาทิตย์ ได้เรียนคำสอน เปิ้ลมีโอกาสได้เป็นดีเจร่วมกับครูแหม่มในการจัดรายการวิทยุ สื่อนำความรัก ในคลื่น Fm. 101.50 Mhz เท่าที่โอกาสจะอำนวย เปิ้ลมีความสุขมากค่ะ ได้เรียนทักษะชีวิตสู่สังคมอย่างมีสุข จากการเรียนคำสอนก็ได้เลื่อนขั้นเป็นคนอ่านบทอ่าน มีโอกาสช่วยพิธีกรรมต่างๆ เปิ้ลมีความสุขที่ได้เข้ามาช่วยงานในวัดของเรา เมื่อถึงมื้อเที่ยงของวันอาทิตย์ เปิ้ลได้ร่วมรับประทานอาหารพร้อมกับ น้องๆพี่ๆสัตบุรุษของวัดที่มาร่วมกิจกรรม เปิ้ลรู้สึกว่าในวัดของเรามีความเป็นกันเองมากและสิ่งที่เปิ้ลได้รับก็ คือ ความรัก ความอบอุ่น ความสนุกสนานในหมู่คณะ ที่เห็นอย่างชัดเจน ในวัดของเราเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข เหมือนครอบครัวเล็กๆ ซึ่งเมื่ออยู่รวมกันทำให้เกิดความสามัคคีความอบอุ่นเป็นพี่เป็นน้องกัน เปิ้ลมีความรู้สึกว่าพระเป็นเจ้าทรงเรียกเปิ้ลมาที่นี่และก็ได้รู้ถึงความฝันเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่พระองค์ทรงบันดาลให้เปิ้ลมาถึงจุดนี้และเป็นโอกาสที่ดีที่เปิ้ลได้มาแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวของตนเองให้พี่น้องสัตบุรุษได้รับรู้ ถึงการเปลี่ยนแปลง จากวันแรก จนถึงปัจจุบัน ต่อจากนี้ไป เปิ้ลสัญญาว่าจะสวดภาวนาให้ทุกคน และหวังว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เส้นทางของเปิ้ลไม่รู้ว่ามันจะจบอย่างไรก็ขอให้พี่น้องสัตบุรุษช่วยสวดภาวนาให้น้องเปิ้ลด้วยค่ะ

ขอบคุณสำหรับกระดาษแผ่นนี้ ที่มอบให้กับเปิ้ล ได้เขียนความประทับใจ มาเล่าสู่เพื่อนพี่น้องในความเชื่อคาทอลิกเดียวกัน


วัดอัครเทวดามีคาแอลได้จัดทำแผนอภิบาลวัด ตามแผนอภิบาลของสังฆมณฑลอุดรธานี ได้จัดทำแผนอภิบาล 10 แผน แต่ละแผนจะระบุกิจกรรมและวันที่จัดกิจกรรมอย่างชัดเจน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มคริสตชนในวิถีชุมชนวัด กิจกรรมและโครงการที่จัดทำขึ้นเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากแผนอภิบาลวัดในปีที่ผ่านมา จะมีกิจกรรมเพิ่มเติมเข้ามาในส่วนของการอภิบาลครอบครัว เด็ก เยาวชน สตรี คริสตชนกลุ่มพิเศษต่างๆและงานด้านการอบรม สารวัดแต่ละเดือนจะนำเสนอแผนอภิบาลแต่ละแผนงาน เพื่อให้สัตบุรุษและผู้อ่านทุกท่านได้รับทราบในแผนอภิบาลของวัด สารวัดประจำเดือนตุลาคม ขอนำเสนอ..

แผนงานที่ 9 เทคโนโลยีและการสื่อสาร

สิ่งที่เราบอกท่านในที่มืด ท่านจงกล่าวออกมาในที่สว่าง สิ่งที่ท่านได้ยินกระซิบที่หู จงประกาศบนดาดฟ้าหลังคาเรือน ” ( มธ 10:27 )

พระเจ้าทรงรักมนุษย์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและทรงเผยแสดงความรักนี้โดยผ่านทางพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นคนกลางที่พระองค์ทรงใช้ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ต้องใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารทุกชนิดเพื่อเป็นเครื่องมือเผยแพร่ความรักและข่าวดีของพระเจ้าไปทั่วทุกมุมโลก ทั้ง “ ในที่สว่าง ” และ “ บนดาดฟ้าหลังคาเรือน ” เหมือนดังที่พระเยซูเจ้าได้ทรงสั่งบรรดาศิษย์ของพระองค์

1.สังฆมณฑลจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารทุกรูปแบบเพื่อประกาศข่าวดีด้วยความรอบคอบ และรู้เท่าทันศักยภาพและผลกระทบของเครื่องมือเหล่านี้

2. หน่วยงานสื่อมวลชนสังฆมณฑลมีหน้าที่ผลิตรายการ ให้ความร่วมมือ และสร้างเครือข่ายกับสื่อมวลชนต่างๆ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนคุณค่าและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม

วัดใช้สื่อเทคโนโลยีและการสื่อสารทุกช่องทาง ที่สามารถกระทำได้ เช่น สื่อเคเบิ้ลจ.หนองบัวลำภู หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น สารวัด หรือ อินเตอร์เน็ต ในการเผยแพร่ข่าวดีและกิจกรรมของวัด

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

พิธีกรรม


“ฉันคือพระมารดาแห่งสายประคำ ฉันมาเตือนสัตบุรุษให้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อย่าทำบาปให้เป็นที่ขัดเคืองพระทัยพระเยซูเจ้า บาปนั้นมากมายเกินไปแล้ว จงสวดสายประคำ และใช้โทษบาปของตนเถิด”

( การประจักษ์มาของแม่พระ ครั้งที่ 6 ในวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1917 )

เดือนตุลาคมของทุกปี คริสตชนถือว่าเป็นเดือนแม่พระ เดือนแห่งการสวดสายประคำ ดังนั้น สารวัดฉบับนี้ เราต้องการนำเสนอข้อเรียกร้องของการประจักษ์มาของแม่พระที่ฟาติมา เพื่อเป็นสื่อกลาง ในการทำตามพระประสงค์ของแม่พระในการสวดสายประคำและพลีกรรมใช้โทษบาป พระนางมารีย์ได้ประจักษ์มาแก่เด็กเลี้ยงแกะสามคน คือ ลูซีอา ซันโทส ฟรังซิสโก มาร์โตและน้องสาวชื่อ ยาชินทา มาร์โต ที่ตำบลฟาติมา ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 1917

ข้อเรียกร้องของพระนางมารีย์ที่ฟาติมามี 3 ประการ

พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกรับรองการประจักษ์ของพระนางมารีย์ที่ฟาติมาและพยายามสอนให้คริสตชนสนองตอบเสียงเตือนของพระเจ้าโดยผ่านทางพระนางมารีย์ว่า
1. ให้ศรัทธาต่อพระเยซูคริสตเจ้า ซึ่งเป็นพระโอรสของพระนาง และเราทุกคนก็เป็นลูกของพระน าง ดังที่พระองค์มอบเราแก่พระนาง โดยผ่านทางนักบุญยวงที่เชิงกางเขน (ยน.19:25-27)
2. พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนม์ และยังมีชีวิตอยู่ในพระศาสนจักรเสนอวิงวอนเพื่อเรา โดยอาศัยพระจิตเจ้า เหตุการณ์ที่ฟาติมาเป็นเครื่องหมายยืนยันสิ่งนี้

3.สิ่งที่แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมาขอร้องคริสตชนคือ พลีกรรมใช้โทษบาป ภาวนาและถวายตนแด่ดวงหทัยนิรมลของพระนางเรียกร้องเราทุกคน