วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส

มีนิทานเรื่องหนึ่งที่ชาวอเมริกาชอบเล่าให้บรรดาเด็กๆ ฟัง คือ เรื่อง “ พ่อลูกขี่ลา ” เรื่องมีอยู่ว่า มีพ่อลูกสองคนนำลาไปขายที่ตลาด คนเป็นพ่อขี่หลังลาส่วนลูกชายเดินจูงลา เมื่อเดินทางไประยะหนึ่ง ได้ยินคนข้างทางผ่านมาพูดว่า “ เป็นพ่อประสาอะไร ไม่รู้จักรักลูกของตนเอง นั่งสบายบนหลังลา ปล่อยให้ลูกเดิน ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น พ่อก็รีบลงจากหลังลาและบอกให้ลูกชายขี่หลังลาแทน เมื่อเดินทางไประยะหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินคนวิจารณ์ว่า “ เป็นลูกแบบไหน ช่างไม่มีความกตัญญู ปล่อยให้พ่อต้องเดินจูงลา ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น พ่อกับลูกบอกกันว่า มีวิธีเดียวที่จะทำให้เขาหยุดพูดก็คือ เราทั้งสองขึ้นขี่หลังลา เมื่อเดินทางไปอีกระยะหนึ่ง เขาก็ได้ยินคนวิจารณ์ว่า “ เป็นมนุษย์ที่ไร้ความเมตตากรุณาจริง ๆ ลาตัวนิดเดียวจะทนรับน้ำหนักมากขนาดนั้นได้อย่างไร ” สองพ่อลูกได้ยินเช่นนั้น ก็รีบลงจากหลังลาทันที เดินไปได้พักหนึ่ง ก็ยังมีคนวิจารณ์ว่า “ สองคนนี้ช่างโง่จริงๆมีลาทั้งตัวไม่รู้จักขี่หลังมัน ” พ่อลูกทั้งสองไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจว่าจะช่วยกันแบกลาไปตลาด บางครั้งชีวิตคนเรา ย่อมได้รับอิทธิพลจากคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่น แน่นอนว่า เราจำเป็นจะต้องรู้จักรับฟังความคิดเห็น แต่ในความคิดที่สร้างสรรค์ที่มีเจตนาที่ดีต่อเราเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรหวั่นไหวจากคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นที่ไม่มีเหตุผล ในพระศาสนจักรหรือในชุมชนที่เราอาศัยอยู่ ก็มีคนประเภทนี้ ที่ชอบตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น แต่ลืมว่าตนเองก็มีข้อบกพร่องหลายอย่าง คนประเภทนี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อพระศาสนจักรและสังคมเลย แทนที่จะสร้างความรัก ความเป็นหนึ่งเดียวกันในชุมชน ในพระศาสนจักร เขากลับสร้างความแตกแยกในหมู่คณะ เมื่อเราอ่านนิทานเรื่องนี้ เราเองก็ต้องพิจารณาประเมินตนเองว่าเราเป็นคนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นอย่างสร้างสรรค์หรือไม่ สิ่งที่พูดออกมานั้นเป็นเจตนาที่ดีหรือมีอะไรที่แอบแฝงในทางที่ไม่สร้างสรรค์ แน่นอนว่า คำพูดของเราสามารถส่งผลกระทบต่อคนอื่น ขอให้ทุกสิ่งที่เราพูดนั้นเป็นสิ่งที่ออกมาจากหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความบริสุทธิ์ใจ มีความปรารถนาดีกับทุกคนและไม่มีผลประโยชน์ที่แอบแฝง

ประวัติคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา

บุญราศี คุณแม่เทเรซา แห่งกัลกัตตา เป็นช่วงเวลาหนึ่ง ที่รอบรั้ววัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู จะมีบรรยากาศงานฉลองที่จะมีบรรดาผู้สูงอายุคนยากจน ผู้พิการ จะมารวมกันที่วัดแห่งนี้ ในวันที่ 5 ของเดือนกันยายนทุกปี ซึ่งรอบรั้วของเราเป็นที่ทราบกันดีว่า มีนักบวชหญิงคณะหนึ่งเข้ามาทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี คือ คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมหรือคณะที่เราจะเรียกกันติดปาก คือ “ คณะคุณแม่เทเรซา ” บทบาทหน้าที่ของซิสเตอร์ก็ยึดแนวทางปฎิบัติตามจิตตารมณ์ของคุณแม่เทเรซา ที่เราสามารถสัมผัสได้ในตัวของซิสเตอร์ทุกคน และในโอกาสนี้ คริสตชน ชาวหนองบัวลำภูจึงร่วมใจกันฉลองบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา ผู้ซึ่งก่อตั้งคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมพร้อมกับบรรดาสมาชิกในคณะของท่าน กับแผนการอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่มีต่อบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตาในประวัติของคุณแม่ เพื่อเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต บุญราศีคุณแม่เทเรซา ผู้ก่อตั้งคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม เกิดที่ประเทศอัลเบเนีย ท่านมีพี่ชายหนึ่งคนและพี่สาวอีกหนึ่งคน บิดาของท่านเป็นพ่อค้าและได้สิ้นชีวิตเมื่อท่านอายุยังน้อยอยู่ เมื่ออายุประมาณ 18 ปี ท่านได้รับการดลใจให้บวชเป็นนักบวชคาทอลิก ท่านสอนหนังสืออยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย เด็กที่มาเรียนในโรงเรียนแห่งนั้นส่วนมากเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ท่านได้มองเห็นความทุกข์ยากของคนจนตามถนนของเมืองกัลกัตตา พวกเขาช่วยตัวเองไม่ได้ ไม่มีอาหาร เครื่องนุ่งห่ม หรือที่อยู่อาศัย ลูกหลานของพวกเขาไม่มีโอกาสได้ไปโรงเรียน ท่านจึงได้รับการดลใจอีกครั้งหนึ่ง ให้ทำงานเพื่อผู้ที่ยากจนที่สุด ท่านได้รับอนุมัติจากผู้ใหญ่ให้เริ่มทำงานในสลัม ท่านสอนเด็กๆ ที่อยู่ข้างถนน ดูแลคนป่วยและผู้ที่จวนจะสิ้นใจ และเด็กๆที่ถูกทอดทิ้ง มีผู้ที่มีการศึกษาและฐานะที่ดีได้เสนอตัวมาช่วยเหลือท่าน และหญิงสาวที่รู้จักท่านและกิจการของท่านก็มาร่วมงานกับท่าน จนกลายเป็นนักบวชกลุ่มใหญ่และได้จัดตั้งขึ้นเป็นคณะนักบวชซึ่งมีชื่อว่า “ คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม ” ปัจจุบันคณะมีสมาชิกซึ่งเป็นซิสเตอร์ จำนวน 5,000 ท่าน ทำงานอยู่ใน 134 ประเทศ มีอารามของคณะ 770 อาราม กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก ภาระหน้าที่และพันธกิจของซิสเตอร์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมก็คือ การให้บริการที่ไม่มีค่าตอบแทนแก่ผู้ที่ขัดสนยากจนที่สุด ไม่ว่าพวกเขาจะนับถือศาสนาใด มีผิวพรรณหรือเชื้อชาติใดก็ตาม ซิสเตอร์คณะนี้สามารถประกอบหน้าที่ของพวกเขาได้ ก็เพราะเขามองเห็นพระเยซูเจ้าในบุคคลเหล่านั้น และสิ่งใดที่พวกเขากระทำให้แก่คนเหล่านี้ ก็เท่ากับว่าพวกเขาได้กระทำให้กับพระเยซูเจ้าพระองค์เอง ซิสเตอร์จะให้บริการแก่ความต้องการของสังคมในประเทศ และในระแวกที่พวกเขาอาศัยอยู่ ในประเทศไทย ซิสเตอร์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม ทำหน้าที่ดูแลผู้ที่เป็นโรคเอดส์ ในกลุ่มเด็กที่จังหวัดหนองบัวลำภูโดยมีบ้านเด็กคุณแม่เทเรซา อยู่ด้านหลังวัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู คณะซิสเตอร์ถือว่า นี่เป็นงานของพระเจ้า และพระองค์จะทรงเป็นผู้จัดหาปัจจัยต่างๆเพื่องานนี้ บุญราศี คุณแม่เทเรซา ผู้ก่อตั้งคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม สั่งห้ามมิให้ซิสเตอร์ในคณะของท่านรณรงค์แสวงหาเงินทองเพื่อทำงานนี้และยังไม่ให้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และยึดมั่นในพระญาณสอดส่องของพระองค์โดยสิ้นเชิง

เรียนรู้ศาสนาคาทอลิก

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน 2555 กลุ่มนักเรียนโรงเรียน หนองบัวพิทยาคาร เข้าเยี่ยมชมวัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู พร้อมทั้งศึกษาพระธรรมคำสอนของศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิก โดยมีคุณพ่อแอนโทนี่ ให้ข้อมูลและชมวีดีโอ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาความเชื่อในพระเป็นเจ้า ซึ่งเชื่อว่า พระเป็นเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งต่างๆให้มนุษย์ดูแลพัฒนา แต่มนุษย์ได้ใช้เสรีภาพ..ทำบาป พระองค์จึงทรงส่งพระเยซูคริสต์มารับสภาพมนุษย์ทรงช่วยเหลือเทศน์สอนมนุษย์ ให้รักกัน ทรงเลือกสาวก ตั้งศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 ประการ ทรงตั้งพระศาสนจักร ปัจจุบัน มีสมเด็จพระสันตะปาปา เป็นผู้นำเพื่อร่วมพัฒนาสังคมให้มีสันติยิ่งขึ้น ตามคำสอนของพระเยซูที่ว่า “ เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด ” ( ยอห์น 13 :34 )

ฉลองบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา

วันพุธที่ 5 กันยายน 2555 ณ วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภูร่วมกับคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมฉลองบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา โดยมีคุณพ่อประสงค์ วงษ์วิบูลย์ O.M.I. หัวหน้าเขตเมืองเลยเป็นประธานในพิธี นอกจากนั้น ยังมีผู้สูงอายุ คนพิการ คนยากจน เข้าร่วมงานฉลอง หลังพิธีมิสซาร่วมรับประทานอาหารพร้อมกันที่ศาลานักบุญอาร์โนลด์ ในระหว่างรับประทานอาหารเที่ยง ก็รับชมประวัติของคุณแม่เทเรซาในพันธกิจต่างๆที่คุณแม่ได้ทำในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และนักบวชคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรมก็ดำเนินชีวิตตามจิตตารมณ์ของคุณแม่เทเรซาอย่างเข้มงวดโดยอาศัยความเชื่อว่างานที่ทำ คือ งานของพระเจ้า หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว คณะซิสเตอร์ได้มอบของขวัญสำหรับผู้สูงอายุ ...ขอให้บุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา อวยพรพี่น้องทุกท่าน ...

เตือนใจวัยรุ่น


วัยรุ่นในสมัยนี้ใจร้อนและมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อปัญหามาก  วัยรุ่นในสมัยนี้ใจร้อนและมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อปัญหามาก อย่างเช่น การทะเลาะวิวาทกัน การตั้งท้องก่อนวัยอันควร ฯลฯ สิ่งเหล่านี้วัยรุ่นมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว วันที่เขาทะเลาะกันเรารู้ใหมว่าพ่อ แม่ เราต้องเดือดร้อน เสียใจและเป็นห่วงเขาขนาดไหน พ่อ แม่ บอกนิดว่าหน่อยก็ทำเป็นไม่พอใจ ดังนั้น การคบเพื่อนของวัยรุ่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คบเพื่อนที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าคบเพื่อนที่ไม่ดีก็จะเกิดปัญหากับตัวเองและคนรอบข้าง ส่วนวัยรุ่นหญิงสาวที่ตั้งท้องก่อนวัยอันควร ตอนนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ในสังคมของเรา เป็นเพราะความสนุกสนาน สุดท้ายผลที่ตามมา คือ การทำแท้ง เขาหารู้ไม่ว่าการที่เด็กคนหนึ่งจะเปิดตามองดูโลกก็ถูกทำลายโดย แม่ ผู้ซึ่งไม่พร้อม   ที่จะเลี้ยงดูเขา ชีวิตของเด็กน้อยก็ต้องสูญเสียไปโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
 ดังนั้น ขอฝากวัยรุ่นทุกๆคน ก่อนที่เราจะทำอะไรลงไปให้เราคิดไตร่ตรอง ดีๆ ก่อนที่เราจะลงมือปฎิบัติ คิดถึงหัวอกของการเป็น พ่อ แม่ด้วย ที่ท่านเลี้ยงดูเรามาจนถึงวันนี้ และคิดถึงอนาคตของตนเอง ตอนนี้ เรามีหน้าที่เรียน ก็ทำหน้าที่ของเราให้ดี และทำให้สุดความสามารถ พ่อ แม่ จะได้ภูมิใจในตัวเรา สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเรา คือ พ่อแม่ ผู้ให้กำเนิด  
                                                                                                                                                 บทความ เฉลิม นฤมาทร

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส


  
    โดยธรรมชาติมนุษย์คนเรา  ชอบปฎิบัติตามคนส่วนใหญ่  ลองสังเกตุจากการสัญจรของคนบนท้องถนนกับการปฏิบัติตามระเบียบวินัยสัญญาณจราจร ในช่วงเย็นหลังจากเลิกงาน  เราจะพบเห็นรถยนต์ติดเป็นขบวนตามสี่แยกไฟแดงต่างๆเพื่อรอสัญญาณจราจร ส่วนบนฟุตบาทเราก็จะพบคนจำนวนมากยืนรอไฟแดงเพื่อที่จะข้ามถนน หากเราสังเกตุดีๆ บางครั้งเราจะพบเห็นเหตุการณ์ขำๆ เหตุการณ์หนึ่ง แต่ก็เป็นสิ่งที่ธรรมดา ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งในบรรดาคนเดินเท้า มีงานเร่งรีบหรือไม่มีความอดทนที่เพียงพอ เมื่อเห็นว่ารถยนต์บนท้องถนนว่าง เขาจะฉวยโอกาสนี้เดินข้ามถนนโดยที่ไม่รอสัญญาณไฟ ขณะเดียวกันในบรรดาคนที่ยืนรอข้ามถนนก็จะมีบางคนที่ปฎิบัติตาม  ผู้คนกลุ่มนี้อาจจะทำตามโดยที่ไม่นึกถึงกฎจราจรแต่ปฎิบัติตามสิ่งที่คนรอบข้างกระทำ สำหรับเขาแล้วสัญญาณจราจรที่จะข้ามถนนคงไม่ใช่ไฟแดงแต่เป็นแบบอย่างของคนรอบข้าง
    ในชีวิตประจำวัน เราหลายคนอาจไม่ประพฤติตนตามสัญญาณหรือตามหลักปฏิบัติแต่ทำตามแบบอย่างของคนในสังคมมากกว่า เขาทำอย่างไร เราก็ทำเช่นเดียวกันเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นการที่มีคนข้ามถนนโดยที่ไฟจราจรยังเขียวอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ยังกลายเป็นสัญญาณเพื่อให้คนจำนวนมากได้ปฎิบัติตาม
    ไม่มีใครสามารถบอกเราได้ว่า ชีวิตของเราอยู่เพื่อตัวเองและไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งต่างๆหรือบุคคลรอบข้างไม่ว่าจะเป็นวาจาหรือกิจการ ความประพฤติของเราทุกอย่างล้วนส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง เพราะฉะนั้น เราไม่ได้ดำเนินชีวิตเป็นเกราะกำบังแต่ต้องดำเนินชีวิตให้เป็นเครื่องหมายสำหรับคนอื่น
    สำหรับคนที่เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า บทบาทการเป็นเครื่องหมายนั้นมีความสำคัญยิ่งนัก  พระเยซูเจ้าได้ยืนยันว่าท่านเป็นเกลือของแผ่นดินและเป็นแสงสว่างสำหรับโลก จะเป็นการดีเพียงใด ถ้าการเป็นประจักษ์พยานถึงความเมตตา ความอดทน การให้อภัย ความมีน้ำใจดี การรับใช้และความซื่อสัตย์ สิ่งเหล่านี้คริสตชนจำเป็นต้องแสดงออกเสมอ ซึ่งเป็นพลังที่จะกลายเป็นสัญญาณแห่งความจริงและชีวิต และเพื่อที่จะถวายเป็นเครื่องหมายสำหรับคนอื่นได้ คริสตชนจำเป็นต้องหันไปหาผู้ที่เป็นหนทางความจริงและชีวิต ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างและปฎิบัติตนเยี่ยงพระองค์  คริสตชนก็จะสามารถดึงดูดคนจำนวนมากเข้ามาหาพระองค์

ความศรัทธาต่อพระนางมารีอา



ความศรัทธาต่อพระแม่มารีอา ผู้ซึ่งบังเกิดมาในครรภ์ของนักบุญอันนา ในพระนามว่า “ มารีอา ” มารีอา ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกเลือกสรรจากพระเป็นเจ้า ให้พระเยซูเจ้าบังเกิดในครรภ์ของพระนาง พระนางจึงได้รับการยกย่องเป็นมารดาของพระเป็นเจ้า พระนางเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากในแผนการไถ่บาปมนุษยชาติของพระเป็นเจ้า พระเยซูเจ้ามอบพระนางให้เป็นมารดาของเราทุกคน พระนางเป็นผู้มีใจอ่อนหวาน สุภาพ และเป็นผู้ช่วยเหลือ คอยเสนอวิงวอนต่อพระเป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้พระศาสนจักรจึงได้ทำการฉลองแม่พระบังเกิด ในวันที่ 8  กันยายน ของทุกปี 
      บิดาและมารดาของพระนางมารีอา  คือ นักบุญยออากิมและนักบุญอันนา ท่านทั้งสองได้ปลูกฝังความรัก  ความศรัทธาให้กับพระนางมารีอา 
      ในโอกาสที่พระศาสนจักรทำการฉลองแม่พระบังเกิด เราผู้ซึ่งเป็นบุตรของพระแม่  จึงขออุทิศความรัก ความศรัทธาต่อพระแม่ วิงวอนขอให้พระแม่ได้คุ้มครองและดูแลเรา เพื่อไม่ให้วิญญาณของเราต้องหลงผิดไปกระทำสิ่งที่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า  ในวันฉลองวันเกิดแม่พระปีนี้ ในหน้าของพิธีกรรมด้วยความรัก ความศรัทธาที่มีต่อแม่พระ เราจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองวันเกิดแม่พระ ด้วยการนำบทความของน้องเยาวชน ที่เขียนถึงแม่พระ ในความช่วยเหลือที่พระแม่มีต่อลูกทุกคน ด้วยความไว้วางใจ ความศรัทธานี่เองที่ส่งผลให้หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเราได้กลายเป็นอัศจรรย์ ที่ได้รับจากพระนางมารีอา   
“ วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ”

สวัสดีค่ะ ชื่อลูกเกดค่ะ อังเยลา ปิยะฉัตร อัมพรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการสอนภาษาญี่ปุ่น คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ  กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ ก็ผ่านเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้ประหลาดใจ จนอดคิดไม่ได้เลย ว่านี่เป็นแผนการของพระ ที่ทำให้เราเลือกเดินทางนี้
    สำหรับหนูแล้ว การสวดภาวนาเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิต อาจจะมีบ่อยครั้งที่ละเลยไปบ้าง แต่ที่ก็ขาดไม่ได้เลยทุกครั้งที่หนูสวดภาวนา นอกจากจะขอพรจากพระคริสตเจ้าแล้ว หนูก็ไม่เคยลืมที่จะขอพรจากแม่พระ หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านนหนังสือ เลยทำให้หลายๆครั้ง ผลการสอบออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ  ตอนอยู่ชั้นม.3 จะสอบเข้าม.4 รู้ตัวอีกทีว่าอ่านหนังสือสอบไม่ทันก็ตอนที่นั่งอยู่ในห้องสอบแล้ว จึงใช้วิธีที่คิดว่าหลายๆคน คงเคยทำมาก่อน นั่นคือการสวดภาวนา
   หนูสวดสายประคำ 10 เม็ดก่อนทำข้อสอบทุกวิชา พอตอนสอบเสร็จ ก็รู้สึกดีที่รู้สึกว่าแม่พระมาอยู่กับหนูด้วย เชื่อมั้ยคะ ว่าผลสอบที่ออกมา หนูสอบติดม.4 ที่โรงเรียนนั้น แล้วยังได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 อีกด้วย เหลือเชื่อมากเลย!วันที่รู้ผลหนูรู้ทันทีเลยว่าเป็นเพราะหนูสวดสายประคำ ถึงสอบได้ หนูรีบวิ่งไปสวดสายประคำบนห้อง เพื่อขอบคุณแม่พระ ก่อนที่จะไปบอกพ่อกับแม่ นี่ถือเป็นเหตุการณ์แรก ที่หนูมั่นใจว่า นี่แหละ แม่พระเป็นผู้ที่ช่วยหนูแล้วก็มีหลายๆเหตุการณ์ อย่างเช่นตอนที่ปวดแก้วหู ปวดและทรมานมากๆแต่วันนั้นเป็นช่วงมหาพรตและดึกมากแล้ว เลยไม่บอกพ่อกับแม่คิดว่าจะพลีกรรม  หนูทรมานมากทั้งสวดสายประคำทั้งร้องไห้ ไม่นานก็หายเป็นปกติ หนูรู้สึกถึงความรักของแม่พระที่มีให้หนูมันชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หนูมั่นใจ ว่าแม่พระจะช่วยให้เดินทางอยู่ในหนทางที่ถูกต้อง และไม่หลงทางออกจากทางเดินไปหาพระคริสตเจ้า เพราะแม่พระก็เปรียบเหมือนแม่ที่รักคนหนึ่งของหนู เป็นแม่ฝ่ายวิญญาณ ซึ่งรักและคอยดูแลเราเสมอ เพราะพระเยซูเจ้าได้ตรัสกับพระแม่มารีย์และท่านนักบุญยอห์นก่อนจะสิ้นพระชนม์ว่า " แม่ นี่คือลูกของแม่ " แล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า
" นี่คือแม่ของท่าน " (ยน.19,26-27)

ประมวลภาพกิจกรรมประจำเดือนสิงหาคม 2012

ไว้อาลัย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม กลุ่มเยาวชนเดินทางไปร่วมสวดภาวนาสำหรับวิญญาณของนายมานะชัย  ภูสีพันนา ที่หมู่บ้านภูพานทองซึ่งเป็นเยาวชนของวัดอัครเทวดามีคาแอล เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำตาย ที่จังหวัดสุพรรณบุรี อายุ  23 ปี  น้องเยาวชนคนนี้ ได้เข้ามาช่วยงานวัดปลายปี 2552 ในเทศกาลคริสต์มาส หลังจากนั้นไม่นานได้ถูกเรียกตัวไปเป็นทหารที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากปลดทหารได้ 3 เดือน ก็จบชีวิตลงในวันแม่แห่งชาติ คือ วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2555 และแผนการในอนาคต เขามีความต้องการเรียนคำสอนเพื่อที่จะรับศีลล้างบาปเป็นคริสตชนคาทอลิก สุดท้ายนี้พี่น้องคริสตชนชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ขอร่วมไว้อาลัยกับครอบครัวภูสีพันนา 

ฉลองคณะคุณแม่เทเรซา
ชีวิตที่เรียบง่ายของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา ได้เป็นแบบอย่างสำหรับคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม เมื่อวันพุธที่ 22  สิงหาคม 2555 เวลา 10.00 น. ณ บ้านเด็กคุณแม่เทเรซา ได้มีพิธีบูชาขอบพระคุณฉลองคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม ในบรรยากาศที่เรียบง่ายฉลองภายใน โดยมีพระคุณเจ้ายอแซฟลือชัย ธาตุวิสัย เป็นประธานในพิธี พระสงฆ์ 2 ท่าน และมีเจ้าหน้าที่ เด็กๆ เข้าร่วมฉลอง   สำหรับงานฉลองยิ่งใหญ่ในรอบปี คือ วันพุธที่ 5 กันยายน 2555 เวลา 10.00 น. มีพิธีบูชาขอบพระคุณหลังพิธีร่วมรับประทานอาหารพร้อมกัน 

พระวรสารสู่บทละคร
 เด็กนักเรียนคำสอนจากวัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู ได้แสดงละครพระคัมภีร์ โดยมีจุดประสงค์ให้นักเรียนทุกคนได้เข้าใจถึงเรื่องราวต่างๆในพระคัมภีร์ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงสอนเราไว้อย่างไร เพื่อนำสิ่งที่พระองค์ทรงสอนนำไปคิดและไตร่ตรอง ให้ออกเป็นบทละคนที่สามารถสื่อให้ผู้ชมได้เห็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตกาลและยังเป็นปัจจุบัน นอกจากนั้น การแสดงละครพระคัมภีร์ยังฝึกให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะคิด แบ่งบทบาทหน้าที่ของตนเอง การทำงานร่วมกับคนอื่นและกล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม ละครพระคัมภีร์ยังเป็นเรื่องราวที่เข้าใจง่าย เด็กนักเรียนคำสอน สามารถนำเรื่องราวของพระเยซูเจ้าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

สื่อนำความรัก 02 September 2012