วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ข้อคิดสำหรับเดือนพฤศจิกายน 2012



พี่น้องที่เคารพรักในพระคริสตเจ้า  การที่พระศาสนจักรกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่เราสมโภชนักบุญทั้งหลาย 1 พฤศจิกายน ของทุกปี เพื่อให้เราได้ซึมซับตามจิตตารมณ์ของผู้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ และเลียนแบบอย่างความพยายามของพวกท่านในการเข้าร่วมกับบรรดานักบุญทั้งหลาย ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่อภิสิทธิ์สำหรับบางคนแต่เป็นหน้าที่ของคริสตชนทุกคน  มีคนอีกจำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับนักบุญ ที่หลงคิดว่า นักบุญ คือ ผู้ที่ไม่เคยทำบาป หรือไม่เคยกระทำความผิดเลยในชีวิต เป็นผู้มีคุณธรรมที่สูงส่ง จิตใจดีงาม ไม่เคยคิดถึงตนเอง คิดถึงแต่พระเจ้าและผู้อื่น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง   ความจริงที่ถูกต้องของนักบุญคือ ผู้ที่มีความพยายามที่จะกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลของการพยายามและการต่อสู้เอาชนะน้ำใจตนเองด้วยความเจ็บปวด 
    2  พฤศจิกายน ระลึกถึงบรรดาผู้ล่วงลับ  ท่านเหล่านั้น คือ บิดา มารดา ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท มิตรสหายของเรา ฯลฯ พวกเขาได้เดินทางล่วงหน้าไปก่อน ความผูกพันอันนี้เองที่พระศาสนจักรได้ให้ความสำคัญกับบรรดาผู้ล่วงลับ ในหมู่บ้านคาทอลิกจะถือว่าวันนี้เป็นวันพบญาติอีกวันหนึ่งซึ่งจะแตกต่างจากทางโลก  ที่บรรดาบุตร หลาน จะได้แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการี โดยการขอมิสซา อุทิศคำภาวนาให้กับบรรดาผู้ล่วงลับ แสงเทียนที่ส่องสว่างบนหลุมศพ เป็นสิ่งที่เตือนใจเราให้เปิดใจมองเห็นแสงสว่างของพระเป็นเจ้า รวมทั้งขอให้บรรดาผู้ล่วงลับได้เห็นแสงสว่างของพระเป็นเจ้าด้วย ชีวิตหลังความตายเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้  เราทราบแต่เพียงว่า หลังจากที่เราได้ทำความดี ต่อสู้ กับอุปสรรคต่างๆมากมายในโลกนี้ วันหนึ่งเมื่อต้องจบชีวิตในโลก ก็ขอให้ได้มีชีวิตใหม่อยู่กับพระเป็นเจ้าในสวรรค์ นี่คือ เป้าหมายของคริสตชน
     ในปีแห่งความเชื่อ ขอให้เราได้ใช้โอกาสที่พระศาสนจักรจัดสรรช่วงเวลานี้ เพื่อการเลียนแบบอย่างของบรรดานักบุญ เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านนักบุญเหล่านั้นไม่ได้ต่างอะไรจากเราเลย เพียงขอให้เราได้เชื่อมั่นในความรักอันไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าที่จะให้เราได้เปลี่ยนแปลงตนเองวันละเล็กละน้อยเพื่อมุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์อย่างครบครัน ในทำนองเดียวกัน เราปรารถนาให้ทุกคนได้ใช้เวลาพิเศษในการอุทิศคำภาวนาสำหรับ บรรดาผู้ล่วงลับ ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาต้องการอีกแล้ว นอกจากการสวดภาวนาและการขอมิสซา มิใช่เฉพาะเดือนระลึกถึงผู้ล่วงลับเท่านั้น การระลึกถึงทุกๆวัน เพื่อเขาจะได้ไปอยู่กับพระเป็นเจ้าโดยเร็ววัน และเมื่อถึงวันที่เราจะต้องจากโลกนี้ไป  พวกเขาก็จะไม่ลืมเราเช่นกัน