วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ข้อคิดสำหรับเดือนพฤศจิกายน 2012
พี่น้องที่เคารพรักในพระคริสตเจ้า การที่พระศาสนจักรกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่เราสมโภชนักบุญทั้งหลาย 1 พฤศจิกายน ของทุกปี เพื่อให้เราได้ซึมซับตามจิตตารมณ์ของผู้ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ และเลียนแบบอย่างความพยายามของพวกท่านในการเข้าร่วมกับบรรดานักบุญทั้งหลาย ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่อภิสิทธิ์สำหรับบางคนแต่เป็นหน้าที่ของคริสตชนทุกคน มีคนอีกจำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับนักบุญ ที่หลงคิดว่า นักบุญ คือ ผู้ที่ไม่เคยทำบาป หรือไม่เคยกระทำความผิดเลยในชีวิต เป็นผู้มีคุณธรรมที่สูงส่ง จิตใจดีงาม ไม่เคยคิดถึงตนเอง คิดถึงแต่พระเจ้าและผู้อื่น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ความจริงที่ถูกต้องของนักบุญคือ ผู้ที่มีความพยายามที่จะกลับใจเปลี่ยนแปลงตนเองอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลของการพยายามและการต่อสู้เอาชนะน้ำใจตนเองด้วยความเจ็บปวด
2 พฤศจิกายน ระลึกถึงบรรดาผู้ล่วงลับ ท่านเหล่านั้น คือ บิดา มารดา ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท มิตรสหายของเรา ฯลฯ พวกเขาได้เดินทางล่วงหน้าไปก่อน ความผูกพันอันนี้เองที่พระศาสนจักรได้ให้ความสำคัญกับบรรดาผู้ล่วงลับ ในหมู่บ้านคาทอลิกจะถือว่าวันนี้เป็นวันพบญาติอีกวันหนึ่งซึ่งจะแตกต่างจากทางโลก ที่บรรดาบุตร หลาน จะได้แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการี โดยการขอมิสซา อุทิศคำภาวนาให้กับบรรดาผู้ล่วงลับ แสงเทียนที่ส่องสว่างบนหลุมศพ เป็นสิ่งที่เตือนใจเราให้เปิดใจมองเห็นแสงสว่างของพระเป็นเจ้า รวมทั้งขอให้บรรดาผู้ล่วงลับได้เห็นแสงสว่างของพระเป็นเจ้าด้วย ชีวิตหลังความตายเป็นเช่นไรไม่มีใครรู้ เราทราบแต่เพียงว่า หลังจากที่เราได้ทำความดี ต่อสู้ กับอุปสรรคต่างๆมากมายในโลกนี้ วันหนึ่งเมื่อต้องจบชีวิตในโลก ก็ขอให้ได้มีชีวิตใหม่อยู่กับพระเป็นเจ้าในสวรรค์ นี่คือ เป้าหมายของคริสตชน
ในปีแห่งความเชื่อ ขอให้เราได้ใช้โอกาสที่พระศาสนจักรจัดสรรช่วงเวลานี้ เพื่อการเลียนแบบอย่างของบรรดานักบุญ เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านนักบุญเหล่านั้นไม่ได้ต่างอะไรจากเราเลย เพียงขอให้เราได้เชื่อมั่นในความรักอันไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าที่จะให้เราได้เปลี่ยนแปลงตนเองวันละเล็กละน้อยเพื่อมุ่งสู่ความศักดิ์สิทธิ์อย่างครบครัน ในทำนองเดียวกัน เราปรารถนาให้ทุกคนได้ใช้เวลาพิเศษในการอุทิศคำภาวนาสำหรับ บรรดาผู้ล่วงลับ ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาต้องการอีกแล้ว นอกจากการสวดภาวนาและการขอมิสซา มิใช่เฉพาะเดือนระลึกถึงผู้ล่วงลับเท่านั้น การระลึกถึงทุกๆวัน เพื่อเขาจะได้ไปอยู่กับพระเป็นเจ้าโดยเร็ววัน และเมื่อถึงวันที่เราจะต้องจากโลกนี้ไป พวกเขาก็จะไม่ลืมเราเช่นกัน
วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555
เยาวชนและเด็กๆร้องเพลงในมิสซาฉลองวันแพร่ธรรมสากล 2012
วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2555 สัตบุรุษหนองบัวลำภูร่วมงานแพร่ธรรมสากลที่อาสนวิหารพระมารดานิจจานุเคราะห์ พระคุณเจ้า ยอแซฟลือชัย ธาตุวิสัย ประธานในพิธี ได้ให้ข้อคิดเตือนใจเราว่า พระศาสนจักรถือว่า วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น “วันแพร่ธรรมสากล” พร้อมกับเชิญชวนคริสตชนทุกคนให้ตระหนักถึงความสำคัญของงานแพร่ธรรมหรืองานธรรมทูต ด้วยการอธิษฐานภาวนาและการสนับสนุนกระแสเรียกการเป็นธรรมทูต จำไว้เสมอว่าในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของพระศาสนจักร เราไม่สามารถปฏิเสธธรรมชาติของเราเองได้ งานธรรมทูต หรืองานแพร่ธรรม หรืองานประกาศข่าวดี สุดแล้วแต่ใครจะเรียก จึงไม่ใช่พันธกิจที่เราจะทำก็ได้ หรือไม่ทำก็ได้ แต่เป็นพันธกิจที่เราทุกคนต้องทำ เมื่อทำแล้ว เราควรภูมิใจที่มีส่วนร่วมในแผนการแห่งความรอดพ้นสำหรับมวลมนุษย์
วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ต้อนรับคริสตชนใหม่ 2 คน
คริสตชนใหม่ วันที่ 24 ตุลาคม 2555 คุณพ่อตวน และคุณพ่อวิน,SVD ได้เป็นประธานในพิธีโปรดศีลล้างบาปสำหรับเยาวชนเวียดนาม 2 คน คือ นายนาม เหวียน นางสาวเฮียน เหงียน เขาทั้งสองได้เรียนคำสอนกับคุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก และมีความปรารถนาแน่วแน่ในการที่จะเข้าร่วมพระศาสนจักรคาทอลิก และมุ่งหวังในอนาคตว่าจะสร้างครอบครัวคริสตชนใหม่ให้เป็นคาทอลิกที่เข้มแข็งและเป็นแบบอย่างสำหรับคริสตชนและผู้ที่ต่างความเชื่อ ให้เขาได้สัมผัสถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา
วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ค่ายเยาวชนเวียดนาม
เมื่อวันที่ 12 –14 ตุลาคม 2555 โดยการนำของคุณพ่อแอนโทนี่เลดึ๊ก, SVD เจ้าอาวาส ได้จัดค่ายเยาวชนเวียดนามเป็นครั้งที่ 2 ที่วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม 60 คน โดยมีจุดประสงค์ เพื่อส่งเสริมด้านชีวิตฝ่ายจิตให้กับเยาวชนเวียดนามที่ใช้แรงงานในประเทศไทย และนักศึกษาที่เข้ามาเรียน การจัดค่ายครั้งนี้มุ่งหวังจะเป็นพลังเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตฝ่ายจิตให้กับเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดระยะเวลา 3 วัน ให้สามารถรักษาความเชื่อ ความศรัทธาของตนเองไว้ แม้ว่าจะตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีคนดูแลให้คำปรึกษา แต่ให้เขาได้เรียนรู้ถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขาเสมอ
วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ส่งเสริมชีวิตฝ่ายจิต
เมื่อวันที่ 6-7 ตุลาคม 2555 ด้วยการนำขององค์พระจิตเจ้า คุณแอนโทนี่ หว่อง วิทยากรชาวมาเลเซีย ได้นำพระพรขององค์พระคริสต์เจ้า มาให้สัตบุรุษหนองบัวลำภูในการบรรยายชีวิตจิต 4 ประการที่พระประทาน มีเด็กนักเรียนคำสอน เยาวชน และผู้ใหญ่ เข้ารับฟังการบรรยาย สิ้นสุดการบรรยาย คุณแอนโทนี่ได้แบ่งปันพระพรการรักษาโรคและรับประสบการณ์ชีวิตฝ่ายจิตที่พระตรัสกับเราโดยผ่านวิทยากรท่านนี้
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ปาฎิหารย์แห่งรัก

สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส

ประมวลภาพกิจกรรมเดือนกันยายน 2012


วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555
สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส

ประวัติคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา

เรียนรู้ศาสนาคาทอลิก

ฉลองบุญราศีคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา

เตือนใจวัยรุ่น

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555
สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส

ในชีวิตประจำวัน เราหลายคนอาจไม่ประพฤติตนตามสัญญาณหรือตามหลักปฏิบัติแต่ทำตามแบบอย่างของคนในสังคมมากกว่า เขาทำอย่างไร เราก็ทำเช่นเดียวกันเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นการที่มีคนข้ามถนนโดยที่ไฟจราจรยังเขียวอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ยังกลายเป็นสัญญาณเพื่อให้คนจำนวนมากได้ปฎิบัติตาม
ไม่มีใครสามารถบอกเราได้ว่า ชีวิตของเราอยู่เพื่อตัวเองและไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งต่างๆหรือบุคคลรอบข้างไม่ว่าจะเป็นวาจาหรือกิจการ ความประพฤติของเราทุกอย่างล้วนส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง เพราะฉะนั้น เราไม่ได้ดำเนินชีวิตเป็นเกราะกำบังแต่ต้องดำเนินชีวิตให้เป็นเครื่องหมายสำหรับคนอื่น
สำหรับคนที่เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า บทบาทการเป็นเครื่องหมายนั้นมีความสำคัญยิ่งนัก พระเยซูเจ้าได้ยืนยันว่าท่านเป็นเกลือของแผ่นดินและเป็นแสงสว่างสำหรับโลก จะเป็นการดีเพียงใด ถ้าการเป็นประจักษ์พยานถึงความเมตตา ความอดทน การให้อภัย ความมีน้ำใจดี การรับใช้และความซื่อสัตย์ สิ่งเหล่านี้คริสตชนจำเป็นต้องแสดงออกเสมอ ซึ่งเป็นพลังที่จะกลายเป็นสัญญาณแห่งความจริงและชีวิต และเพื่อที่จะถวายเป็นเครื่องหมายสำหรับคนอื่นได้ คริสตชนจำเป็นต้องหันไปหาผู้ที่เป็นหนทางความจริงและชีวิต ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างและปฎิบัติตนเยี่ยงพระองค์ คริสตชนก็จะสามารถดึงดูดคนจำนวนมากเข้ามาหาพระองค์
ความศรัทธาต่อพระนางมารีอา
ความศรัทธาต่อพระแม่มารีอา ผู้ซึ่งบังเกิดมาในครรภ์ของนักบุญอันนา ในพระนามว่า “ มารีอา ” มารีอา ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกเลือกสรรจากพระเป็นเจ้า ให้พระเยซูเจ้าบังเกิดในครรภ์ของพระนาง พระนางจึงได้รับการยกย่องเป็นมารดาของพระเป็นเจ้า พระนางเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากในแผนการไถ่บาปมนุษยชาติของพระเป็นเจ้า พระเยซูเจ้ามอบพระนางให้เป็นมารดาของเราทุกคน พระนางเป็นผู้มีใจอ่อนหวาน สุภาพ และเป็นผู้ช่วยเหลือ คอยเสนอวิงวอนต่อพระเป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้พระศาสนจักรจึงได้ทำการฉลองแม่พระบังเกิด ในวันที่ 8 กันยายน ของทุกปี
บิดาและมารดาของพระนางมารีอา คือ นักบุญยออากิมและนักบุญอันนา ท่านทั้งสองได้ปลูกฝังความรัก ความศรัทธาให้กับพระนางมารีอา
ในโอกาสที่พระศาสนจักรทำการฉลองแม่พระบังเกิด เราผู้ซึ่งเป็นบุตรของพระแม่ จึงขออุทิศความรัก ความศรัทธาต่อพระแม่ วิงวอนขอให้พระแม่ได้คุ้มครองและดูแลเรา เพื่อไม่ให้วิญญาณของเราต้องหลงผิดไปกระทำสิ่งที่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ในวันฉลองวันเกิดแม่พระปีนี้ ในหน้าของพิธีกรรมด้วยความรัก ความศรัทธาที่มีต่อแม่พระ เราจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองวันเกิดแม่พระ ด้วยการนำบทความของน้องเยาวชน ที่เขียนถึงแม่พระ ในความช่วยเหลือที่พระแม่มีต่อลูกทุกคน ด้วยความไว้วางใจ ความศรัทธานี่เองที่ส่งผลให้หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเราได้กลายเป็นอัศจรรย์ ที่ได้รับจากพระนางมารีอา
“ วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ”
สวัสดีค่ะ ชื่อลูกเกดค่ะ อังเยลา ปิยะฉัตร อัมพรัตน์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการสอนภาษาญี่ปุ่น คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นค่ะ กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ ก็ผ่านเรื่องราวหลายอย่างที่ทำให้ประหลาดใจ จนอดคิดไม่ได้เลย ว่านี่เป็นแผนการของพระ ที่ทำให้เราเลือกเดินทางนี้
สำหรับหนูแล้ว การสวดภาวนาเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิต อาจจะมีบ่อยครั้งที่ละเลยไปบ้าง แต่ที่ก็ขาดไม่ได้เลยทุกครั้งที่หนูสวดภาวนา นอกจากจะขอพรจากพระคริสตเจ้าแล้ว หนูก็ไม่เคยลืมที่จะขอพรจากแม่พระ หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอ่านนหนังสือ เลยทำให้หลายๆครั้ง ผลการสอบออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ ตอนอยู่ชั้นม.3 จะสอบเข้าม.4 รู้ตัวอีกทีว่าอ่านหนังสือสอบไม่ทันก็ตอนที่นั่งอยู่ในห้องสอบแล้ว จึงใช้วิธีที่คิดว่าหลายๆคน คงเคยทำมาก่อน นั่นคือการสวดภาวนา
หนูสวดสายประคำ 10 เม็ดก่อนทำข้อสอบทุกวิชา พอตอนสอบเสร็จ ก็รู้สึกดีที่รู้สึกว่าแม่พระมาอยู่กับหนูด้วย เชื่อมั้ยคะ ว่าผลสอบที่ออกมา หนูสอบติดม.4 ที่โรงเรียนนั้น แล้วยังได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1 อีกด้วย เหลือเชื่อมากเลย!วันที่รู้ผลหนูรู้ทันทีเลยว่าเป็นเพราะหนูสวดสายประคำ ถึงสอบได้ หนูรีบวิ่งไปสวดสายประคำบนห้อง เพื่อขอบคุณแม่พระ ก่อนที่จะไปบอกพ่อกับแม่ นี่ถือเป็นเหตุการณ์แรก ที่หนูมั่นใจว่า นี่แหละ แม่พระเป็นผู้ที่ช่วยหนูแล้วก็มีหลายๆเหตุการณ์ อย่างเช่นตอนที่ปวดแก้วหู ปวดและทรมานมากๆแต่วันนั้นเป็นช่วงมหาพรตและดึกมากแล้ว เลยไม่บอกพ่อกับแม่คิดว่าจะพลีกรรม หนูทรมานมากทั้งสวดสายประคำทั้งร้องไห้ ไม่นานก็หายเป็นปกติ หนูรู้สึกถึงความรักของแม่พระที่มีให้หนูมันชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หนูมั่นใจ ว่าแม่พระจะช่วยให้เดินทางอยู่ในหนทางที่ถูกต้อง และไม่หลงทางออกจากทางเดินไปหาพระคริสตเจ้า เพราะแม่พระก็เปรียบเหมือนแม่ที่รักคนหนึ่งของหนู เป็นแม่ฝ่ายวิญญาณ ซึ่งรักและคอยดูแลเราเสมอ เพราะพระเยซูเจ้าได้ตรัสกับพระแม่มารีย์และท่านนักบุญยอห์นก่อนจะสิ้นพระชนม์ว่า " แม่ นี่คือลูกของแม่ " แล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า
" นี่คือแม่ของท่าน " (ยน.19,26-27)
ประมวลภาพกิจกรรมประจำเดือนสิงหาคม 2012
ไว้อาลัย

ฉลองคณะคุณแม่เทเรซา

พระวรสารสู่บทละคร

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555
สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส

เราหิวกระหาย “ เกียรติยศ ” ไม่มีใครปรารถนาให้ใครมาดูถูกตนเองได้ ทุกคนมีความปรารถนาที่จะได้รับเกียรติยศ การยกย่อง แม้จะได้รับเกียรติยศนั้นจากคนเพียงหนึ่งคน
เราหิวกระหาย “ การยอมรับ ” ไม่มีใครยอมรับเราได้ หากเราไม่แสดงออกถึงศักยภาพของตนเองเพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงศักยภาพนั้น
เราหิวกระหาย “ มิตรภาพและความผูกพัน ” ถ้าไม่มีการปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น เราก็จะกลายเป็นคนที่เศร้าหมองและโดดเดี่ยวเดียวดาย
เราหิวกระหาย “ กำลังใจ ” ถ้าหากเราขาดกำลังใจ เราจะเหมือนเรือที่ไม่มีใบพัด
เราหิวกระหาย “ ความเชื่อ ” เราทุกคนต่างมีความเชื่อในบางสิ่งบางอย่าง แต่ถ้าไม่มีความเชื่อชีวิตของเราก็จะเหมือนเรือที่ล่องลอยโดยไม่มีทิศทาง
เราหิวกระหาย “ ความหวัง ” ตราบใดที่มนุษย์ยังมีความหวัง เราสามารถทำในสิ่งต่างๆมากมายได้ แต่เมื่อใดเราสิ้นหวัง เมื่อนั้นเราก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
เราหิวกระหาย “ ความรัก ” ถ้าเราได้รับการตอบสนองในความต้องการนี้ ความหิวกระหายเกือบทั้งหมดก็จะถูกดับไป ยังมีความหิวกระหายอีกอย่างหนึ่งที่มีความลึกซึ้งที่สุดซึ่งสิ่งนี้จะรวบรวมความหิวกระหายทั้งหมดมารวมเข้าด้วยกันรวมถึงความหิวกระหายความรักด้วย นั่นคือ ความหิวกระหาย “ ชีวิตนิรันดร ” และอีกหนึ่งความหมาย คือ การหิวกระหายพระเจ้า ความรู้สึกกระหายพระเจ้านั้น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น “ ทุกข์ ” แต่เป็น “ ความสุข ” เพราะว่าสิ่งนี้ช่วยให้เราพยายามที่จะพัฒนาตนเองให้มองเห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่สิ่งจีรัง เมื่อเรากระหายพระเจ้า เราจึงมีความต้องการที่จะแสวงหาพระองค์และมีพระองค์เท่านั้น ที่สามารถช่วยให้เรารู้สึกอิ่มหนำ ไม่ใช่เพียงฝ่ายร่างกายแต่รวมทั้งฝ่ายจิตใจด้วย ขอให้เราทุกคนมีความรู้สึกหิวกระหายพระเจ้าในทุกๆวันตลอดชีวิตของเราและก้าวเข้าไปหาพระองค์เพื่อที่จะได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระองค์
ประมวลภาพกิจกรรมเดือนสิงหาคม
ประเทศเพื่อนบ้าน

สิงหาคม หลังพิธีมิสซานักศึกษาจากประเทศลาวร่วมกิจกรรมกับเยาวชน หลังอาหารเที่ยงก็เดินทางกลับบ้าน
โค้งสุดท้าย

ทัศนศึกษา

น้อมรำลึกพระคุณแม่

บรรยากาศวันแม่

ณ วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู เสียงพิธีกรได้เกริ่นนำความหมายของวันแม่ หลังจากนั้น ได้เรียนเชิญบรรดาคุณแม่ทั้งหลายมานั่งด้านหน้า ซิสเตอร์ เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลเด็กบ้านคุณแม่เทเรซา บ้านเยาวชน ผู้ป่วยบ้านพักฟื้น ต่างเดินมาด้านหน้าในความรู้สึกที่เอ่อล้นว่า ช่วงเวลาต่อไปนี้จะเป็นการแสดงออกซึ่งความรัก ความผูกพัน ที่ลูกๆมีต่อคุณแม่
ก่อนที่พวกลูก จะเข้ามอบดอกมะลิ เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ ความหอมของดอกมะลิ เป็นคุณความดีของคุณแม่ที่หอมฟุ้งกระจายไปทั่วทุกสารทิศ พวกลูกทุกคนขอมอบบทเพลง เพลงหนึ่งแทนความรักที่ออกมาจากใจของพวกลูก ถึงแม้ว่า จะไม่ไพเราะ แต่ก็ถูกกลั่นกรองออกมาจากใจของลูกทุกคน ... “ เพลง เรารักแม่ ” ลูกทุกคนต่างร้องเพลงนี้ด้วยความตั้งใจ ถึงแม้ว่าจะมีเวลาฝึกซ้อมเพียงน้อยนิดแต่ทุกคน ก็ทำตามหน้าที่ของลูกๆสุดความสามารถ บทเพลงถูกขับขานไปเรื่อยๆ น้ำตาของแม่ก็ไหลออกมา พร้อมกับเสียงเพลงที่ขับขาน แม้ไม่ได้กอดแต่ได้ยินคำพูด น้ำเสียง ที่เปล่งออกมา แม่ก็มีความสุขใจหาสิ่งใดมาเทียบมิได้ หลังจากเพลงเรารักแม่ได้จบลง ตัวแทนลูกเยาวชนได้อ่านกลอนวันแม่ มอบให้กับคุณแม่ทุกๆคน ด้วยความพยายามที่ลูกเขียนและพยายามฝึกอ่าน เพื่อให้วันนี้เป็นวันพิเศษของแม่ หลังจากนั้น ลูกๆทุกคนก็นำดอกมะลิ มอบให้กับคุณแม่ เพื่อให้ลูกๆทุกคนได้แสดงออกถึงความรัก ความกตัญญู และขอโทษในสิ่งต่างๆ ที่พวกลูกไม่ได้เชื่อฟังคำอบรมของท่าน
ไม่มีข้อแม้ ....
ไม่มีกาลเวลา กับผู้หนึ่ง.....
ผู้ที่ถูกเรียกว่า ลูกของแม่...
ขอให้ทุกวัน เป็นวันแม่ .....
สำหรับลูกทุกคน
วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส

ประวัตินักบุญมารีย์ กอเรตตี พรหมจารีและมรณสักขี ระลึกถึงวันที่ 6 กรกฏาคม

นักบุญคามิลโล เดอ เลลลิส พระสงฆ์ (1550 - 1614) ระลึกถึงวันที่ 14 กรกฎาคม

ข้อมูลจาก..สังฆมณฑลกรุงเทพ
ชีวิตสนิทกับพระ
สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วกับสารวัด วันนี้ผมจะมาแบ่งปัน การเข้าเงียบของพี่ๆชาวเวียดนามนะครับ ผมได้มีโอกาสมองดูและสัมผัสชีวิตการเข้าเงียบ ความศักดิ์สิทธิ์ ความศรัทธาของพี่เยาวชน ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ตัวผมไม่ได้เข้าเงียบร่วมกับพี่ๆ แต่ผมก็มีส่วนร่วมโดยการบริการในทุกๆด้าน และผมก็มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่เวียดนามที่ร่วมเข้าเงียบในครั้งนี้ เขารู้สึกประทับใจมากและเขาบอกว่าได้รู้จักพระเจ้ามากขึ้น ได้มีโอกาสเงียบอยู่กับตัวเอง สิ่งต่างๆก็เข้ามาในความคิดทำให้เราได้รับสิ่งใหม่ๆและเปลี่ยนแปลงชีวิตในทางที่ดี ส่วนตัวผมเอง เท่าที่ได้เห็นและได้มีโอกาสสัมผัสกับการเข้าเงียบครั้งนี้ ก็รู้สึกมีความคิดลึกๆอยู่ในใจว่า ทำไมพี่ๆ ชาวเวียดนามถึงมีความสามัคคีและมีความร้อนรน ในการแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า บางคนก็เดินทางมาจากประเทศเวียดนามเพื่อที่จะเข้าเงียบ บางคนยังไม่ได้เป็นคริสตชน แต่ก็มีความปรารถนาที่จะมาร่วมเข้าเงียบ
ผมในฐานะที่เป็นคริสตชนคนไทยคนหนึ่ง ก็อยากจะเห็นภาพและกิจกรรมเยาวชนของวัดเราให้เหมือนกับพี่ๆเวียดนามที่ได้ทำกิจกรรมเช่นนี้ หาดูได้ยาก ถึงแม้พี่ๆ แต่ละคนจะมีภารกิจที่แตกต่างกันแต่ก็ยังอุตส่าห์เดินทางมาร่วมเข้าเงียบ ไม่ว่าพี่บางคนจะติดเรียนหรือมีงานประจำ พี่เยาวชนก็ยังหาเวลาให้กับตัวเอง เพื่อจะได้อยู่ใกล้องค์พระผู้เป็นเจ้า ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ ก็ตาม เขาก็ยังทำได้
สุดท้ายนี้ ผมก็ขอฝากเพื่อนพี่น้องทุกคน ถ้าต้องการหรือสนใจทำกิจกรรมเยาวชน ก็สามารถมาเสนอตัวได้ ที่วัดอัครเทวดามีคาแอล หนองบัวลำภู แล้วโอกาสจะมีสำหรับผู้ที่แสวงหาเท่านั้น ฉบับนี้ต้องลาคุณผู้อ่านที่น่ารักไปก่อนฉบับหน้าจะมีอะไรมาฝากขอให้ติดตามผลงานเขียนของผมได้นะครับ สวัสดี
เฉลิม นฤมาณกันทร
เฉลิม นฤมาณกันทร
จงเป็นเกลือของแผ่นดินและแสงสว่างของโลก

งานคำสอน

“ จงเป็นเกลือของแผ่นดินและแสงสว่างของโลก ”

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส
ปัจจุบัน เรามีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปหลายชนิด ที่สามารถนำ

ในโลกปัจจุบัน ได้ถูกขนามนามว่าเป็นยุคอัตโนมัติ ยุคของการกดปุ่ม เรากดปุ่มเครื่องจักรเพื่อให้เครื่องจักรทำงาน เรากดปุ่มสวิตซ์ไฟเพื่อได้แสงสว่าง เรากดปุ่มเพื่อให้ประตูเปิด เรากดปุ่มเพื่อที่จะส่งจดหมาย และอื่นๆ อีกมากมาย ขณะที่เรามีวิธีการต่างๆ เพื่อที่จะประหยัดพลังงานย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่วิธีใช้ชีวิตแบบกดปุ่มจะทำให้เรามีแนวโน้มที่จะแสวงหาสิ่งต่างๆด้วยความง่ายดาย แทนที่จะทำอะไรที่ท้าทาย เราบอกตัวเองว่า จะไปเยี่ยมผู้สูงอายุ คนเจ็บป่วยให้เสียเวลาทำไม ทำไมเราไม่โทรเยี่ยมน่าจะสะดวกกว่า มีหลายเรื่องในโลกนี้ที่เราอยากแก้ไขและเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน การกดปุ่มในเรื่องบางอย่างก็ไม่สามารถกระทำได้ดั่งใจหวังและไม่มีปุ่มไหนที่ใช้แทนการฝึกฝนทักษะได้ เช่น ทักษะในการเล่นไวโอลีน หรือเป็นนักกีฬามืออาชีพ
พี่น้องที่รัก ถ้าเราคิดคำนึงอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราจะพบว่า อะไรที่เราสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและสะดวก บ่อยครั้งจะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น ตรงกันข้าม หากเรากระทำสิ่งใดที่ต้องใช้เวลาแรงกาย แรงใจ และความเสียสละกลับมีคุณค่ามาก เมื่อเราย้อนกลับเข้ามาดูตัวเองจะพบว่าชีวิตของเราได้ใช้ชีวิตแบบกดปุ่มหรือชีวิตแบบอาหารสำเร็จรูป ให้เราพิจารณาใหม่ใน วิถีชีวิตของตนเอง และปรับเปลี่ยนให้สมบูรณ์ขึ้นโดยการใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆประกอบเข้ามามีส่วนให้ความเป็นมนุษย์ดีขึ้น
พระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ไม่ได้กอบกู้มนุษยชาติด้วยการตรัส แต่คำเดียวหรือด้วยการกดปุ่มสักอัน แต่พระองค์ได้วางแผนการกอบกู้นั้นอย่างเป็นระบบแบบแผน มีขั้นตอนที่ยิ่งใหญ่ และใช้เวลาเป็นพันๆปี เพราะฉะนั้น เราก็ไม่สามารถพัฒนาตนเองได้ ถ้าหากเราไม่ยอมออกแรง ทั้งแรงใจ เวลาและการเสียสละ นี่คือ ปัจจัยที่จำเป็น สำหรับการสร้างชีวิตที่มีคุณค่าและความหมาย
Three Minute Reflection: Feeling Beautiful Inside and Out

งานแพร่ธรรมประเทศลาว
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยม พระสงฆ์ ซิสเตอร์และคริสตชนในประเทศลาว ประเทศลาวเป็นประเทศหนึ่งที่ถูกเบียดเบียนคริสต์ศาสนาและต่อต้านการแพร่ธรรม ดังนั้น พระสงฆ์หรือซิสเตอร์ต้องทำงานอย่างลับๆ พวกท่านเหล่านั้นได้อาศัยอยู่กับชาวบ้านและสอนคำสอนให้กับคนที่ต้องการอย่างลับๆ คริสตชนในประเทศลาวมีความศรัทธาอย่างมากและเขามีความเข้มแข็งในการเป็นลูกขององค์พระผู้เป็นเจ้า แม้จะถูกเบียดเบียนก็ตาม ผมได้มีโอกาสได้พูดคุยกับบราเดอร์คนหนึ่งเขาอยู่คณะเยซูอิต เขาเป็นคนเวียดนาม และเขาก็ได้เล่าให้ผมฟังว่า ในประเทศลาว มันยากในการที่เราจะแพร่ธรรมอย่างเปิดเผย ที่เวียดนามก็เช่นเดียวกันรัฐบาลเขากลัวว่า เมื่อศาสนาเข้ามาและเจริญเติบโต มันจะทำให้รัฐบาลมีอำนาจในการปกครองประชาชนน้อยลง และเขากลัวอีกว่า เมื่อศาสนาเข้ามามีอิทธิพลในประเทศของเขา ประชากรของเขาจะมีความเคารพศาสนามากกว่า การเคารพรัฐบาล
เราซึ่งอยู่ในประเทศที่มีอิสระเสรี ในการทำทุกอย่างและที่สำคัญเราผู้ซึ่งเป็นคริสตชนและเป็นลูกขององค์พระผู้เป็นเจ้า เราต้องมีความเชื่อ ความรัก ความไว้ใจ มากกว่าผู้ที่ไม่มีโอกาสเหมือนกับเรา เราโชดดีแค่ไหน ที่เราเกิดมาในประเทศที่มีความพร้อมทุกอย่างในการดำเนินชีวิต ดังนั้น เราจงไว้วางใจในพระเป็นเจ้าเถิด ทุกอย่างจะดีเอง
นี่เป็นส่วนหนึ่งของงานแพร่ธรรมในพระศาสนจักรที่ถูกเบียดเบียนการเป็นคริสตชนที่ดีไม่ใช่ขึ้นอยู่กับสถานที่หรือปัจจัยภายนอก แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติหน้าที่ของการเป็นคริสตชนที่ดี สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับ
คริสตชนที่แท้จริง .. เฉลิม นฤมานกันทร ..
ประมวลภาพกิจกรรมประจำเดือนมิถุนายน 2012
แบ่งปันพระวาจา

แม้จะใกล้ ไกล เราก็ไปถึง


สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)