ปัจจุบัน เรามีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปหลายชนิด ที่สามารถนำ

ในโลกปัจจุบัน ได้ถูกขนามนามว่าเป็นยุคอัตโนมัติ ยุคของการกดปุ่ม เรากดปุ่มเครื่องจักรเพื่อให้เครื่องจักรทำงาน เรากดปุ่มสวิตซ์ไฟเพื่อได้แสงสว่าง เรากดปุ่มเพื่อให้ประตูเปิด เรากดปุ่มเพื่อที่จะส่งจดหมาย และอื่นๆ อีกมากมาย ขณะที่เรามีวิธีการต่างๆ เพื่อที่จะประหยัดพลังงานย่อมเป็นสิ่งที่ดี แต่วิธีใช้ชีวิตแบบกดปุ่มจะทำให้เรามีแนวโน้มที่จะแสวงหาสิ่งต่างๆด้วยความง่ายดาย แทนที่จะทำอะไรที่ท้าทาย เราบอกตัวเองว่า จะไปเยี่ยมผู้สูงอายุ คนเจ็บป่วยให้เสียเวลาทำไม ทำไมเราไม่โทรเยี่ยมน่าจะสะดวกกว่า มีหลายเรื่องในโลกนี้ที่เราอยากแก้ไขและเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน การกดปุ่มในเรื่องบางอย่างก็ไม่สามารถกระทำได้ดั่งใจหวังและไม่มีปุ่มไหนที่ใช้แทนการฝึกฝนทักษะได้ เช่น ทักษะในการเล่นไวโอลีน หรือเป็นนักกีฬามืออาชีพ
พี่น้องที่รัก ถ้าเราคิดคำนึงอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราจะพบว่า อะไรที่เราสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและสะดวก บ่อยครั้งจะไม่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้น ตรงกันข้าม หากเรากระทำสิ่งใดที่ต้องใช้เวลาแรงกาย แรงใจ และความเสียสละกลับมีคุณค่ามาก เมื่อเราย้อนกลับเข้ามาดูตัวเองจะพบว่าชีวิตของเราได้ใช้ชีวิตแบบกดปุ่มหรือชีวิตแบบอาหารสำเร็จรูป ให้เราพิจารณาใหม่ใน วิถีชีวิตของตนเอง และปรับเปลี่ยนให้สมบูรณ์ขึ้นโดยการใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆประกอบเข้ามามีส่วนให้ความเป็นมนุษย์ดีขึ้น
พระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ไม่ได้กอบกู้มนุษยชาติด้วยการตรัส แต่คำเดียวหรือด้วยการกดปุ่มสักอัน แต่พระองค์ได้วางแผนการกอบกู้นั้นอย่างเป็นระบบแบบแผน มีขั้นตอนที่ยิ่งใหญ่ และใช้เวลาเป็นพันๆปี เพราะฉะนั้น เราก็ไม่สามารถพัฒนาตนเองได้ ถ้าหากเราไม่ยอมออกแรง ทั้งแรงใจ เวลาและการเสียสละ นี่คือ ปัจจัยที่จำเป็น สำหรับการสร้างชีวิตที่มีคุณค่าและความหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น