วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ค้นพบธรรมฑูตแห่งขุนเขา(สารวัดเดือนธันวาคม 2010)


ท่ามกลาง แสง สี ความมืดมิดที่ปกคลุมบนท้องถนน เราได้ยินเสียงรถวิ่ง ทุกอย่างดูเงียบสงบ ภายใต้รถทัวร์ วี ไอ พี มุ่งตรงสู่เมืองเชียงใหม่ ขุนเขาที่หลายๆคน เคยใฝ่ฝันที่จะท่องเที่ยว แต่ระยะเวลาแห่งการเดินทาง อันยาวนานคงจะทำให้หลายๆคน ต้องเปลี่ยนใจ เลือกสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ เราเดินทางมาถึงอาเขต ที่เขาเรียกว่า บขส. จุดนัดพบแรก ของการแอ๊ว เชียงใหม่ ผู้คนที่พลุกพล่าน บรรดานักขับทั้งหลาย ต่างเรียกลูกค้า เพื่อรับบริการส่งถึงที่ เรารอรับกระเป๋า สัมภาระเพี๊ยบ ขนมปิ๊ป ที่เราคัดสรรมาอย่างดีเพื่อ เด็กๆ และเยาวชนบนดอย
ทุกอย่าง เหมือนถูกลิขิตไว้ คณะของเรานำทีมโดยคุณพ่อแอนโทนี่ เลดึ๊ก เจ้าอาวาสวัดหนองบัวลำภู ครูแหม่มและน้องโทน ทีมงานวัด ออกค้นหา..งานแพร่ธรรมในรูปแบบเชิงรุก แนวทางใหม่ของงานแพร่ธรรม ของพระศาสนจักรที่กำลังเรียกร้อง ให้ใคร..บางคน.. ที่จะตอบรับในเสียงแห่งงานแพร่ธรรม นี่เป็นการเดินทางสู่เชียงใหม่ครั้งแรกของคุณพ่อแอนโทนี่ และเป็นการระลึกถึงเมื่ออดีตของครูแหม่มและน้องโทน ที่มาแอ๊วเชียงใหม่ แต่การมาครั้งนี้ แตกต่างจาก ครั้งที่ผ่านมา เราได้มารู้จัก กับคณะนักบวชเบธาราม โดยการแนะนำจากผู้ที่มีจิตศรัทธาอันแรงกล้า ในการช่วยเหลือพระศาสนจักรในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ใต้ หรืออีสาน ฆราวาสผู้แพร่ธรรมเหล่านี้บุกถึงที่ เราไม่เคยรู้จักกับคุณพ่อชาญชัย คณะเบธาราม แต่เราก็ปรารถนามาถึงเชียงใหม่ เพื่อที่จะมาเรียนรู้งานจากที่นี่ คุณพ่อมารับ คณะทีมงานที่อาเขต โชดดีมากที่คุณพ่อแต่งตัว ด้วยเสื้อเคอร์ชี่ที่ทำให้เราไม่ต้องเดาเลยว่า คนไหน คือ พ่อชาญชัย เราสวัสดีคุณพ่อ คุณพ่อนำเราสู่บ้านศูนย์กลางเบธาราม ที่เชียงใหม่ เราได้ชำระร่างกาย ทุกอย่างสดชื่น ดื่มกาแฟ โอวัลติน
และยังมีโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อมงคล เกี่ยวกับงานด้านอบรมของคณะเบธารามด้วย บรรยากาศเป็นเหมือนกับเพื่อนสนิท ที่รู้จักกันมานาน แต่หารู้ไม่ว่า เรามารู้จัก ก็ตอนนี้นี่เอง คุณพ่อชาญชัย เริ่มวางแผนที่จะเป็นไกด์ พาเที่ยวงานแพร่ธรรม เมื่อมาถึงเชียงใหม่ทั้งที คืนนี้ เพื่อให้ได้บรรยากาศแห่งความเยือกเย็นสุดขั้ว ที่หมู่บ้านผาหมอน ก่อนออกเดินทางสู่หมู่บ้านแห่งนี้ คุณพ่อชาญชัยและคุณพ่อแอนโทนี่ ก็ถวายมิสซาให้กับเยาวชนบ้านพันธกิจ ซึ่งจะเป็นเด็กชาวดอย ที่มาเรียนและพักอาศัย อยู่ในสถานที่แห่งนี้ เรายังมีโอกาสได้เยี่ยมโรงเรียนแม่ปอน มีซิสเตอร์คณะแม่ปอนดูแลเด็กกลุ่มนี้ มีทั้งเด็กประถมและเด็กป.พิเศษ อะไร คือ เด็ก ป.พิเศษ เด็กกลุ่มนี้ คือ เด็กที่มาเรียนพระคัมภีร์ เมื่อจบแล้วก็กลับบ้านหรือถ้าต้องการเรียนต่อก็ เขียนจดหมายถึงพ่อชาญชัย แล้วคุณพ่อก็จะดำเนินการตามขั้นตอน หรือตามดุลยพินิจของคุณพ่อ มีนักบวชชาย หญิง หรือข้าราชการ หลายท่าน ที่ต้องผ่านโรงเรียนแห่งนี้ ในการอบรม เพื่อมุ่งสู่การศึกษา
เส้นทางที่เรามุ่งไปแต่ละหมู่บ้านนั้น แสนลำบากมาก และเป็นช่วงเวลากลางคืนด้วย การเดินทางในช่วงเวลากลางคืนใน ถนนหลวง คงไม่ใช่ปัญหา แต่สำหรับการขับรถขึ้นดอย บนถนนที่ไม่มีไฟ มีเส้นทางที่รถสามารถผ่านได้ หนทางคดเคี้ยว ถ้าไม่ชำนาญในการขับรถคงไม่สามารถไปถึงจุดหมายได้ ยอมรับว่าธรรมทูต ที่เข้ามาแพร่ธรรมบนดอย เป็นผู้ที่อุทิศตนในงานแพร่ธรรมจริง ๆ ทุกที่ ที่ไปไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับผู้แพร่ธรรมในยุคโลกาภิวัฒน์ สังคมแห่งความเอื้ออาทรต่อกัน ยังไม่ถูกกลืนในสังคมบนดอย ยังมีคำถามอยู่ในใจว่า ยังมีอีกหรือ กับสังคมที่เอื้ออาทรกันเช่นนี้ สิ่งที่พบและได้สัมผัส นำมาเป็นเชื้อเพลิงของการเป็นธรรมทูตและอาสาสมัครบนดอย บนดินแดน ที่อยู่ไกลแสนไกล ยังมีสิ่งดีๆ หลายสิ่งที่กำลังรอคอยการกลับใจเพื่อมาเป็นครอบครัวเดียวกันของพระศาสนจักร เพราะงานแพร่ธรรม รอคอยบุคคลที่จะตอบรับเสียงเรียกนั้น คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่ตอบเสียงเรียกของพระ ในงานแพร่ธรรม เพราะที่กันดารแห่งนี้ พวกเขาโหยหาองค์พระคริสตเจ้า คุณอาจจะเป็นเครื่องมือในการดับความโหยหานั้น


ผู้เขียนอยากจะบอกว่า เราได้อะไรมากกว่าสิ่งที่คาดหวังไว้ คณะทีมงาน ขอบคุณคุณพ่อชาญชัย ธรรมทูตผู้แพร่ธรรมแห่งขุนเขา ในประสบการณ์ชีวิตที่คุณพ่อมอบให้ สิ่งนี้ ไม่ต้องบรรยายหรือพูดออกมาเป็นคำพูด ทุกสิ่งที่คุณพ่อกระทำนั่นคือ คำบรรยายทั้งปวง พวกเราสัญญาณว่า จะกลับไปอีกครั้งในดินแดนผู้แพร่ธรรมแห่งขุนเขา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น