วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

สารวัดประจำเดือนมีนาคม 2011(หนึ่งกิจกรรมพัฒนา)



กิจกรรมทักษะชีวิตในเทอมที่ 2 เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน 2010 และสิ้นสุดวันที่ 6 มีนาคม 2011 รวมเป็นเวลา 16 สัปดาห์

การเรียนรู้ที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การศึกษาด้วยตัวเอง จะทำให้เกิดองค์ความรู้และทักษะใหม่ๆอยู่เสมอๆ และยิ่งมีแนวทางและพื้นฐานเหมือนหนึ่งบันไดให้ก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงกว่าแล้วนั้น การที่จะมองเห็นศักยภาพในตัวเองและพัฒนาศักยภาพนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ยาก

ดังนั้นทางทีมงานผู้จัดกิจกรรมทักษะชีวิต หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้เป็นเสมือนศาสตร์ที่น้องๆ ผู้เข้าร่วมทุกคนจะได้รับและนำไปใช้ให้เป็นศิลป์ในอนาคต เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมต่อไป

น้องลูกเกดหนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้บรรยายถึงประโยชน์จากการร่วมกิจกรรมตลอดเทอมที่ผ่านมาและกล่าวถึงความสำคัญของกิจกรรมไว้ในสารวัด ดังนี้

“สำหรับกิจกรรมการเรียนทักษะชีวิตของวัดอัคร-เทวดามีคาแอลของเราในเทอมนี้ มีหัวข้อต่างๆ ที่ฉันสามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ ได้รับความรู้ใหม่ มีส่วนช่วยฉันในหลายๆด้าน จากหัวข้อต่างๆที่ฉันชอบ ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง เอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย ทำให้ทราบว่าสิ่งไหนที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเรา จะได้นำไปเผยแผ่ ให้เป็นที่รู้จัก เช่น เรื่องวัยรุ่นต้องปรับตัวเข้าหาผู้ใหญ่หรือผู้ใหญ่ต้องปรับตัวเข้าหาวัยรุ่น (โต้วาที) บทสรุปคือ ทำให้ทราบว่า ไม่ว่ายังไง วัยรุ่น ก็ต้องปรับตัวเข้าหาผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่เป็นผู้ที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน สามารถชี้แนะได้ เพื่อที่วัยรุ่นจะได้เดินตามทางที่ถูกต้อง ไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต หรือเรื่อง การรู้จักตนเอง ทำให้ฉันรู้ว่า จริงๆแล้วตัวเองเป็นยังไง ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีความถนัด หรือสนใจในด้านไหนบ้าง เพื่อที่จะสามารถนำมาประกอบการตัดสินใจในการใช้ชีวิต และยังมีอีกหลายหัวข้อ ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง โรคติดต่อ เรื่องยาเสพติด หรือปัญหาของวัยรุ่นในสังคม ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าวัยรุ่นในทุกวันนี้ หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก เช่น เรื่องความคิด ค่านิยม วัตถุนิยมต่างๆ แฟชั่น และความเชื่อที่ผิดๆของวัยรุ่น วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องให้ความดูแลเป็นพิเศษอย่างมาก แต่ก็ทำได้ยาก เพราะวัยรุ่นจะไม่ชอบให้ผู้ใหญ่มายุ่งวุ่นวาย อยากจะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตนเอง

สำหรับฉันแล้ว การเรียนทักษะชีวิต ไม่ว่าจะหัวข้อไหน ก็เกิดประโยชน์ต่อตัวฉัน สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำ วันได้ทั้งนั้น ทำให้สามารถอยู่ร่วมกับทุกคนในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งเป็นการปลูกฝัง ให้มีความคิดดีๆ รู้จักแก้ปัญหาได้”

นางสาวปิยะฉัตร อัมพรัตน์

สุดท้ายนี้ทางทีมงานผู้จัดกิจกรรมขอขอบคุณบรรดาเด็กๆ และเยาวชนทุกท่านที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างดี ที่ลืมไม่ได้คือขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ได้สนับสนุนงบประมาณและปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้การเรียนรู้ทักษะชีวิตของน้องๆ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอวยพรให้น้องๆ เยาวชนทุกคนเติบโตขึ้นพร้อมกับศักยภาพที่เต็มเปี่ยมและดำรงอยู่ในพระหรรษทานขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อรักและรับใช้เพื่อนมนุษย์ ดังจิตตารมณ์ของเยาวชน “อุทิศและเสียสละ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น