วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

บทเรียนในวันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูเจ้า

เดือนมิถุนายน เป็นเดือนที่พระศาสนจักรทำการสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นองค์แห่งความรักทุกประการ ความรักที่ดวงหฤทัยของพระองค์ทรงมีต่อเรา เราคงไม่กล้านิ่งเฉยที่จะไม่ประกาศข่าวอันน่ายินดีนี้แก่มนุษยชาติ ในแผนกพิธีกรรมเราพยายามที่จะค้นหาบทความที่ดีที่สุด เพื่อเป็นเครื่องมือในการค้นพบความรักที่ไม่มีขีดจำกัด โดยได้นำบทความที่มีข้อคิดดีๆ จาก คุณพ่อขวัญ ถิ่นวัลย์ สงฆ์มิสซังท่าแร่ -หนองแสง เราจะเริ่มต้น ด้วยบทละครแห่งความรักของชาย หญิง คู่หนึ่ง เมื่อได้อ่านแล้ว ก็พบกับคำตอบในคำพูดของชายผู้นี้ เช้าวันหนึ่ง ชายชราวัย 80 ปี กุลีกุจอมาหาหมอที่คลินิก บอกให้หมอช่วยทำแผลที่นิ้วหัวแม่มืออย่างรีบเร่ง เพราะมีนัดหมายในเวลา 08.30 น. หมอถอดผ้าพันแผลและทำแผลให้ ก่อนจะทำแผลให้ใหม่ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร หมอสังเกตเห็นชายชราดูรีบร้อน ดูที่นาฬิกาข้อมือบ่อยๆ จึงถามว่า “ คุณตามีนัดกับหมอคนอื่นอีกเหรอ ทำไมดูรีบร้อนนัก ” ชายชราตอบหมอว่าไม่ได้มีนัดกับใคร แต่ต้องการไปที่บ้านคนชราเพื่อรับประทานอาหารเช้ากับภรรยา เมื่อหมอถามถึงสุขภาพของภรรยา ชายชราบอกหมอว่าภรรยาย้ายไปอยู่ที่บ้านพักคนชราเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม คุณหมอจึงถามว่า “ หากคุณตาไปถึงที่นั่นช้าเพียงเล็กน้อย เธอคงเสียใจมาก ” แต่หมอก็ต้องแปลกใจเมื่อชายคนนั้นยืนยันว่าเธอจำเขาไม่ได้มา 5 ปีแล้ว หมอจึงถามว่า “ คุณตาไปที่นั่นทุกเช้า แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าคุณตาเป็นใครกระนั้นหรือ ” ชายชรายิ้ม จับมือหมอและตอบว่า “ แม้เธอจะจำผมไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าเธอเป็นใคร มีความหมายอย่างไรสำหรับผม ” นี่คือ ตัวอย่างของความรักที่แท้จริงชายชราคนนั้นมีต่อภรรยาของเขา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นความรักนี้ยังดำรงคงมั่น ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แม้ว่าอีกฝ่ายจะจำเขาไม่ได้แล้วก็ตาม วันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นวันที่เราเฉลิมฉลองความรักของพระเจ้า ที่เปิดเผยให้เราทราบผ่านทางดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าที่ถูกทิ่มแทงเพื่อเรา พระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นน้ำพุแห่งพระหรรษทานและความรักที่ไม่เหือดแห้งของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ เราสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ซึ่งความเชื่อคริสตชนบอกเราว่าพระเยซูเจ้าทรงพระชนม์อยู่และทรงเป็นองค์แห่งความรัก วันฉลองนี้เริ่มขึ้นในพระศาสนจักรตั้งแต่ปี ค.ศ. 1856 โดยการเผยแสดงของพระเยซูเจ้าต่อ นักบุญมาร์การิตา มารีย์ อาลาก๊อก ที่เผยให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญของพระองค์ กระทั่งวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 1899 พระสันตะปาปาเลโอที่ 13 ได้มอบถวายมนุษยชาติต่อดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ต่อมาในปี ค.ศ. 1928 พระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ได้รับการเฉลิมฉลองนี้ “ พระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ” เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์ “ พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร ” (ยน3:16) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าทรงหลั่งโลหิตเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์ ความรักของพระเยซูเจ้านั้นไร้ขีดจำกัดและไม่สงวนสิ่งใดไว้สำหรับพระองค์เลย การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน คื่อ เครื่องหมายยืนยันว่าพระองค์ทรงรักมนุษย์มาก ทรงให้ได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตและเลือดหยุดสุดท้าย สิ่งที่ดีงามทรงให้มนุษย์ทั้งหมดไม่เหลืออะไรไว้สำหรับพระองค์เลย นอกจากสิ่งที่ไม่มีใครเขาอยากได้คือ กางเขนและมงกุฎหนามที่พระองค์ทรงรับไว้ บทเรียนชีวิต ให้เราได้แสดงความรักต่อพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นพิเศษ ด้วยควมเชื่อวางใจในพระองค์ มอบปัญหาและความต้องการต่างๆไว้กับพระองค์ ดวงพระหฤทัยที่รักเราอย่างหาที่สุดมิได้จะปกป้อง คุ้มครองเรา และประทานสันติสุขให้แก่เรา พระเยซูเจ้าได้คำมั่นสัญญาในการปรากฏพระองค์ให้แก่นักบุญมาร์การิตา มารีย์ว่า จะประทานพระหรรษทานที่ล้นเหลือสำหรับผู้ที่ศรัทธาภักดีต่อดวงพระหฤทัยของพระองค์ พระหฤทัยของพระเยซูเจ้าคงบทสรุปของพระวรสาร “ จงเลียนแบบจากเรา เรามีใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน ” (มธ.11:29) วันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเตือนใจเราว่า พระเจ้าทรงรักเรา ปรารถนาจะอยู่ใกล้ชิดกับเรา เมื่อเรารับศีลมหาสนิท เราก็หนึ่งเดียวและชิดสนิทในพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงรักเราและสัญญาจะอวยพร ความรักของเราต้องมีลักษณะเดียวกันกับความรักของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปฎิบัติต่อเพื่อนพี่น้องที่เราพบเห็นในแต่ละวัน เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อเราตระหนักว่าพระเจ้าทรงรักเราถึงเพียงนี้ เราก็ควรรักซึ่งกันและกันด้วยสิ่งนี้แหละคือ เครื่องหมายว่าเราเป็นศิษย์ของพระองค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น