วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จดหมายจากใจ ในรณรงค์วันเอดส์โลก - วันที่ 1 ธันวาคม 2010



สวัสดีค่ะ

สบายดีหรือเปล่าค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ อากาศเปลี่ยนแปลบ่อยๆ มีสองฤดูในวันเดียวกัน หนูก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับมรดกจากผู้ให้กำเนิด จากวันที่หนูลืมตาดูโลก มาถึง ณ วันนี้ 17 ปีแล้วค่ะที่หนูต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ เอฮ ไอ วี ในวัยเด็กหนูไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนู เมื่อหนูจำความได้ พ่อ แม่ หนูก็ตายจากหนูไปในเวลาไล่เรี่ยกัน หนูคิดแบบเด็กๆและโทษโชคชะตาชีวิตที่เล่นตลกกับหนูและครอบครัว มันช่างโหดร้ายเหลือเกินสำหรับเด็กคนหนึ่งที่ต้องสูญเสียทั้งพ่อ ทั้งแม่ ไปพร้อมๆกัน ต่อมาไม่นาน หนูเริ่มป่วยบ่อยและขาดเรียนบ่อย และมีตุ่มขึ้นตามแขน ขา หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนูอีก หนูไม่มีเพื่อนเล่น ทุกคนพากันวิ่งหนีหนู หรือแม้แต่ญาติๆของหนู ก็แยกหนูออกจากครอบครัว หนูได้ยินคนเขาพูดว่า หนูเป็นเอดส์ ซึ่ง

ความที่หนูเป็นเด็ก หนูยอมรับว่ากลัวมาก ไม่กล้าแม้แต่จะออกจากที่ที่หนูอยู่ ไปเรียนหนังสือก็ไม่กล้าไป หนูถูกมองเหมือนตัวประหลาด ในความคิดตอนนั้นหนูรู้สึกว่าตัวเอง ไร้ค่าต่ำต้อย ชีวิตขาดวิ่นมองไม่เห็นทางรอด หนูท้อแท้สิ้นหวัง แต่แล้วหนูก็พบกับความโชคดี เมื่อพระเจ้าทรงเมตตา ส่งคนมา พาหนูไปรักษา ในวันนั้นหนูยังจำได้ดีว่า หนูนอนป่วยไม่มีแม้แต่แรงที่จะหายใจ แต่แล้วสิ่งที่หนูไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อคุณครูที่โรงเรียน และพี่ๆแกนนำมาเยี่ยมหนูที่บ้าน และอุ้มหนูขึ้นรถพาไปโรงพยาบาล หนูได้รับการดูแลรักษาด้วยความเอาใจใส่จากคุณหมอและคุณพยาบาลเป็นอย่างดี จนหนูอาการดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ หนูมีสุขภาพแข็งแรงดีเหมือนคนปกติทั่วไป

เดี๋ยวนี้หนูไม่ได้เป็นผู้ป่วยเอดส์แล้วค่ะ หนูแค่เป็นผู้ที่มีเชื้อ เฮช ไอ วี ในร่างกายเท่านั้นค่ะ หลายๆคน ยังคงไม่เข้าใจ คำนิยามของโรคเอดส์ กับ เฮช ไอ วี คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ไปทำลายภูมิต้านทานของร่างกาย แต่ถ้าเราดูแลร่างกายสุขภาพ กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เราก็อยู่ได้ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เหมือนคนปกติที่ไม่เจ็บป่วย หนูอยากบอกว่าในอดีตที่ผ่านมา หนูมีชีวิตที่เจ็บปวดสิ้นหวัง ท้อแท้ แต่ ณ วันนี้ หนูมีความสุขมาก เพราะหนูได้เปิดใจยอมรับการเรียนรู้ และความเปลี่ยนแปลงของชีวิต หนูเรียนรู้ที่จะอยู่กับ เฮช ไอ วี อย่างมีความสุข หนูค้นพบความจริงที่ว่า “ ชีวิตมีคุณค่า ” มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันทุกวันนี้ หนูมีอนาคตที่ดี หนูได้เรียนหนังสือ ตามความฝันของหนู ครอบครัวญาติพี่น้องหนู เข้าใจหนู ไม่รังเกียจและเป็นกำลังใจให้หนูสู้อีกครั้ง

สำหรับหนูไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน หนูก็คือ ผู้ติดเชื้อ เฮช ไอ วี สุดท้ายที่หนูอยากบอกและอยากขอ คือ “ ขอโอกาสให้หนูและเด็ก ติดเชื้อ เฮช ไอ วี ได้มีโอกาสเติบโตในสังคม ชุมชน อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกับเด็กปกติด้วยเถอะค่ะ อย่าให้พวกหนูต้องโตเหมือนต้นไม้ที่จำเป็นต้องโตเลย ค่ะ ”




ถึง ผู้ติดเชื้อ เฮช ไอ วี

สวัสดีเพื่อนๆ ที่ติดเชื้อเฮช ไอ วี ฉันอยากจะเขียนจดหมายให้กำลังใจในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมโลกกัน ฉันอยากจะบอกว่า ถึงแม้ว่าตัวเธอเอง จะติดเชื้อเฮช ไอ วี ก็ไม่เป็นไร เธอก็สามารถดำรงชีวิตเหมือนกับบุคคลทั่วไปได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องไปกังวลว่าเราติดเชื้อเฮช ไอ วี จงอยู่กับมันและคิดว่ามันเป็นเพื่อนของเรา และเราก็จะมีความสุข เธอจงรู้ไว้ว่า ถึงจะติดเชื้อเฮช ไอ วี แต่ก็มีสิทธิต่างๆเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป การที่เธอติดเชื้อเฮช ไอ วี นั้นจะทำให้เธอมีโรคฉวยโอกาสต่างๆ ที่จะทำให้เธอมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอลงไป เธอจะต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดี หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานยาตรงต่อเวลา จะได้ไม่เกิดอาการดื้อยา และที่สำคัญ คือ เธอจะต้องนอนหลับพักผ่อนให้มากๆ ทำจิตใจให้แจ่มใส ชื่นบาน และเธอจงรู้ไว้ว่า ถึงจะมีใครบางคนที่รังเกียจเธอ แต่เธอก็ยังมีฉันอยู่เคียงข้างเสมอ



ถึง ผู้อ่านทุกท่าน ที่ติดเชื้อ HIV และที่ไม่ติดเชี้อ

ผมเองก็อยู่ในกลุ่มผู้ที่ติดเชื้อ ในส่วนตัวของผมแล้ว ผมเคยสิ้นหวังในชีวิตที่ผิดพลาด ความหวังที่จะหายจากโรคร้ายคงไม่มี เคยคิดแต่เพียงว่าสักวันหนึ่ง เราก็คงจะตาย แต่พอมาคิดในอีกมุมหนึ่งว่า ก่อนที่เราจะตายทําไมไม่ทำสิงที่ดีๆ ใว้ก่อน ผมเลยคิดที่จะสู้ต่อไปอีก ไม่กลัวว่าใครเขาจะรังเกลียด ใครจะมองอย่างไรก็ช่าง เราอยู่ของเราได้ โดยส่วนตัวของผมแล้ว ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดี ที่จริงแล้วโรคที่เราเป็นอยู่ มันก็ไม่ต่างจากโรคอื่นๆที่หลายคนเป็นอยู่ เพียงแต่คนให้ความสำคัญมากเกินไป ที่ว่าใครเป็นแล้วก็ตายไม่มียารักษา แล้วโรคอื่นที่เป็นแล้วตายเร็วกว่าโรคเอดส์ก็มีมาก อย่างเช่นมะเร็ง ผมเลยอยากให้ผู้ที่ติดเชื้อ จงเข้มแข็งและสู้ต่อไปสักวันหนึ่ง เราต้องมียารักษาให้หายได้

และผมอยากวอนขอ ผู้ที่ไม่ติดเชื้อช่วยโปรดเห็นใจ และเข้าใจในความรู้สึกของเราอย่ามองเราด้วยความรังเกลีด อย่ากลัวเราเพราะพวกเราก็เป็นมนุษย์เหมือนท่าน ในโลกนี้ ไม่มีใครที่อยากจะติดเชื้อนี้หรอก และมันก็ไม่ใช่ว่าจะติดกันได้โดยง่าย ทุกคนที่เขาติดเชื้อจะมีแต่ความเหงา ความอ้างว้างเหมืนอยู่ในโลกเพียงลำพัง ไม่มีใครเข้าใจ เหมือนถูกตัดออกจากโลก ภายนอกแม้แต่ญาติพี่น้อง ก็ไม่อยากอยู่ไกล้ หากเราแก้ไขอดีตได้เราก็คงไม่เป็นโรคนี้ คงไม่มีใคร อยากอยู่คนเดียวในโลก อย่างไร้ความหมายและไร้ความรักได้โปรดทุกท่านจงเข้าใจเราด้วยเถิด

สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกท่านจงโชคดีและหายจากโรคภัยทุกประการด้วยเถิด

ด้วยความนับถือ

จากเรา…



ฉันเป็นคนหนึ่งที่โอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกับผู้ติดเชื้อ แต่ก่อนนี้ ฉันก็มีคิดเหมือนคนอื่นๆทั่วไป ที่มีความเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับโรคเอดส์ แต่ตอนนี้อยากจะบอกกับทุกคนว่า ความคิดของฉันได้เปลี่ยนไป เมื่อได้มารู้จักและสัมผัสกับกลุ่มผู้ติดเชื้อจริงๆ

ปัจจุบันสังคมไทยยังมีทัศนคติตลอดจนความเข้าใจเกี่ยวกับการติดเชื้อเอชวีและ โรคเอดส์ไม่ดีนัก โดยคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าหากเป็นเอดส์แล้วต้องเสียชีวิต แต่ในความคิดของฉัน ฉันคิดว่าผู้ติดเชื้อก็เป็นเหมือนคนปกติทั่วไป เพียงแต่ผู้ป่วยติดเชื้อนี้ต้องการกำลังใจในการใช้ชีวิตมากกว่าเราทั่วไป คนปกติธรรมดาอย่างเรานี้แหละ ที่ได้ตัดโอกาสทางสังคมของผู้ติดเชื้อ ไม่คบค้าสมาคม รวมไปถึงการไม่ให้เกียรติและดูถูกผู้ติดเชื้อ ทั้งๆที่ สิ่งที่เราช่วยเหลือเขาได้ในตอนนี้คือความเข้าใจและกำลังใจ เพราะโรคเอดส์ไม่ได้ติดต่อกันได้ง่าย เพียงเพราะการพูดคุย สัมผัสตัว หรือใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะกลัวเลย ที่ต้องใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้ป่วยติดเชื้อ ผู้ติดเชื้อจะเจ็บป่วยบ่อย เสียเงินค่ารักษามาก ทำให้เสียกำลังใจท้อแท้ คนในครอบครัว และสังคมรอบข้าง รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ควรให้ความเห็นใจ ให้กำลังใจผู้ป่วยเอดส์ ไม่ให้มีความวิตกกังวลมากเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ภูมิต้านทานต่ำลงไปอีก และการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น การสร้างความเข้าใจกับผู้ติดเชื้อ จะทำให้ผู้ติดเชื้อมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับสถานการณ์ที่ประสบอยู่ เนื่องจากรับรู้ว่ายังมีคนเข้าใจ และไม่รังเกียจในการที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปลอดภัย

สุดท้ายนี้อยากจะฝากทุกๆคน เรื่องความเชื่อเกี่ยวกับโรคเอดส์ คือ ถ้าไม่ได้สัมผัสผ่านทางเลือดโดยตรง ก็มีโอกาสติดเชื้อได้น้อยมาก อยากให้ทุกคนร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้ติดเชื้อด้วย


ถึง เพื่อนที่มีหัวใจที่เข้มแข็งต่อสู้กับโรคร้าย

ก่อนอื่นก็ขอกล่าวคำว่า สวัสดีค่ะ หนูมีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงเพื่อนที่มีหัวใจเข้มแข็งต่อสู้กับโรคร้าย เมื่อใครๆที่ได้ยินคำว่า “โรคร้าย” ต่างก็รู้สึกไม่ดีแน่นอน แต่ใครจะรู้ว่าเพื่อนๆที่มีหัวใจที่เข้มแข็งต่อสู้กับโรคร้ายนี้ยังมีหัวใจที่เข้มแข็งและต่อสู้กับมันได้ด้วยใจที่เข้มแข็งไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ หนูขอกล่าวคำว่า เพื่อนๆสุดยอดไปเลยค่ะที่มีจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมีหัวใจที่ปราศจากคำว่า “ย่อท้อและอ่อนแอ” เพราะตัวหนูเองบ่อยครั้งนักที่อ่อนแอต่ออุปสรรค แต่เพื่อนๆนับว่าเป็นวีรบุรุษในดวงใจของหนูเลยค่ะ

เมื่อครั้งที่ยังไม่รู้จักว่าโรคร้ายคืออะไร ในความคิดของหนูคิดว่าคงเป็นโรคที่ร้ายแรงมากถ้าใครเป็นก็คงไม่รอดแน่นอนและคงจะน่ากลัวมาก แต่เมื่อหนูได้มีโอกาสได้มาสัมผัสกับเพื่อนๆที่เป็นโรคร้ายก็ทำให้ความคิดในอดีตนั้นหายไป เพราะโรคร้ายนั้นไม่ได้เป็นอย่างที่หนูคิดเลยแต่เพื่อนๆยังมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เพื่อนๆยังมีหัวใจที่เข้มแข็งพร้อมที่จะก้าวและโน้มตัวออกไปเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในสังคม เพื่อนๆสามารถกระทำทุกอย่างได้เหมือนกับทุกๆคนในสังคม สามารถประกอบอาชีพ สามารถเป็นคนดีของสังคม สามารถบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติและมีอีกหลายๆอย่างที่เพื่อนๆสามารถทำได้อย่างไม่มีขอบเขต ตราบใดที่เพื่อนๆยังมีลมหายใจ เพื่อนๆก็ยังเป็นบุคคลที่สำคัญของสังคมและประเทศชาติ เพราะชีวิตของเรายังมีค่าต่อทุกคน ในบางครั้งเพื่อนๆอาจจะคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีค่า ถ้าบางครั้งที่เพื่อนๆคิดว่าชีวิตนี้ไม่มีค่า ไม่จริงหรอกค่ะ เพราะเพื่อนๆยังมีลมหายใจ เพื่อนๆก็ยังมีความสำคัญต่อใครหลายคน

สุดท้ายนี้จะร้อนหรือจะเหน็บหนาว หนูขอสัญญาว่าหนูจะเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆและจะสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระบิดาเจ้าให้เสมอๆค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น