วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส


ในปีนี้ขณะที่เราก้าวเข้าสู่เดือนมิถุนายน พระศาสนจักรในปฎิทินพิธีกรรมก็เข้าสู่ช่วงเวลาใหม่เช่นกัน นั่นคือเทศกาลธรรมดา คำว่า เทศกาลธรรดานั้น อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดบ้าง ในบริบทของปีพิธีกรรม คำว่า “ ธรรมดา ”ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีอะไรสำคัญ แต่คำว่า “ ธรรมดา ” ในบริบทนี้ หมายถึง ไม่ได้อยู่ในเทศกาลสำหรับฉลองหรือสมโภชพิเศษ เทศกาลธรรมดาเป็นช่วงเวลาในปีพิธีกรรมที่อยู่นอกเหนือ เทศกาลมหาพรต เทศกาลปัสกา เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯและเทศกาลพระคริสตสมภพ ในระหว่างเทศกาลธรรมดา พระศาสนจักรเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้า ไม่ใช่เฉพาะด้านใดด้านหนึ่งแต่ในทุกมิติ บทอ่านและบทพระวรสารในปีพิธีกรรมตลอดเทศกาลนี้ ช่วยชี้แนะเราในวิธีปฎิบัติข้อความเชื่อของคริสตชนในชีวิตประจำวัน
          เทศกาลปัสกาได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่นั่น ไม่ได้หมายถึง  ชีวิตของเราจะกลายเป็นชีวิตธรรมดา และแน่นอนว่า เทศกาลธรรมดาก็ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตของเราจะกลายเป็นชีวิตที่ธรรมดา แต่ชีวิตของเราย่อมเป็นชีวิตแห่งการเป็นประจักษ์พยาน เนื่องจากเราได้รับพละกำลังเพิ่มขึ้นจากการเฉลิมฉลองที่เราได้ปฎิบัติระหว่างเทศกาลปัสกา ตลอดเวลา เราได้สัมผัสความรักอันหาที่สุดมิได้ของพระเจ้าที่มีต่อเรา เมื่อเราทำการระลึกถึงความทุกข์ทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนม์ชีพอันรุ่งโรจน์ขององค์พระคริสตเจ้า เราได้ถูกเติมเต็มด้วยความหวัง เมื่อเราสมโภชการเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระเยซูเจ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีอะไรมากกว่าโลกที่ไม่จีรังยั่งยืน เรามั่นใจว่ามีสวรรค์ เป็นบ้านสุดท้ายของเรา และเป็นบ้านแท้ ที่กำลังรอคอยเราและพระเยซูเจ้าได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เพื่อเตรียมสถานที่สำหรับเรา อย่างที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ “ และเมื่อเราไป และเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปอยู่กับเราด้วย เพื่อว่าเราอยู่ที่ใด ท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย ” (ยน 14: 3)และสุดท้ายเราได้รับของขวัญซึ่งเป็นพระจิตเจ้าที่พระเยซูเจ้าได้สัญญาว่าจะประทานให้แก่เรา เพื่อเราจะได้รับการนำทาง การชี้แนะจากพระจิตแห่งความจริงทรงเป็นพระพรที่บังเกิดผลต่างๆมากมาย ในชีวิตฝ่ายจิตเราได้รับการมั่นใจถึงน้ำพระทัยของพระเจ้า นอกจากนั้น พระพรเหล่านี้ ถูกมอบให้เราเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับทุกคน เพื่อให้เราสามารถเสริมสร้างพระวรกายของพระคริสต์เจ้าให้แข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งเพิ่มความศรัทธา ความรัก และความยุติธรรมมากขึ้นเช่นกัน  
       ในขณะที่เราเข้าสู่เทศกาลธรรมดาของปีพิธีกรรม ให้เราจดจำว่าชีวิตของเรานั้น ไม่เคยธรรมดา เราอาจไม่สามารถเป็นคนธรรมดาได้ เมื่อเราเต็มไปด้วยพระจิตของพระเจ้า ซึ่งผลักดันเราให้ประกาศข่าวดีให้แก่คนยากจน ปลดปล่อยผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ( ลก4:18) นี่เป็นภารกิจที่ถูกกำหนดไว้ สำหรับคริสตชนทุกคนที่จะต้องกระทำภารกิจนี้ในทุกๆวัน เพราะฉะนั้น ในแต่ละปีจะมีเวลาต่างๆ  แต่สำหรับคริสตชนที่แท้ ไม่มีวันไหนที่จะเป็นวันธรรมดา เมื่อเรากำลังปฎิบัติภารกิจของพระเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น