วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สารจากคุณพ่อเจ้าอาวาส

           มีชายฝรั่งเศสสองคน ชอบท่องเที่ยวไปประเทศต่างๆ เขาใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทาง ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนหลาย สิบประเทศ และได้รวบรวมประสบการณ์มากมาย พวกเขาใช้เวลา 3 ปีเพื่อที่จะปั่นจักรยานจากประเทศฝรั่งเศสไปประเทศไทย เมื่อถึงประเทศไทย เขาได้ใช้เวลา 1 ปี เป็นอาสาสมัครในค่ายลี้ภัยที่ชายแดนไทย- พม่า อีก 9 เดือนเพื่อที่จะเดินทางทั่วประเทศจีน และอีก 6 เดือนเดินทางเยี่ยมเยียนประเทศญี่ปุ่น เกาหลีและไต้หวัน หนึ่งในสอง คนนี้ได้กล่าวว่าระหว่างการเดินทางนั้น แม้จะมีประสบการณ์ที่ดีมากมายแต่ก็มีอันตรายไม่น้อย ในบางครั้งระหว่างการเดินทางไปประเทศต่างๆพวกเขาถูกโจรทำร้าย และในตะวันออกกลางทุกวันเขาได้เห็นเหตุการณ์ที่ผู้คนถูกฆ่าด้วยความรุนแรงในประเทศอินเดีย หลังจากที่พวกเขาได้ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในค่ายดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อนแห่งหนึ่ง เขาได้เขียนในสมุดบันทึกของตนเองว่า หลังจากที่ได้มาอยู่ที่นี่ พวกเรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรในชีวิตที่จะต้องบ่นอีกต่อไป นี่อาจจะเป็นประสบการณ์สำคัญที่สุดในชีวิตของหนุ่ม 2 คนนี้ การที่เขาได้สัมผัสกับอันตราย ความทุกข์ยากลำบากและความสุขของชนชาติต่างๆ ได้ช่วยให้เขาซาบซึ้งในความเป็นครอบครัวเดียวกัน ในโลกที่มีความหลากหลาย ชีวิต คือ การเดินทาง ไม่ใช่แค่การเดินทางวันหรือสองวัน แต่เป็นการเดินทางระยะยาวเพื่อที่จะไปสู่เป้าหมายของชีวิต อับราฮัมบรรพบุรุษของเราได้ถูกพระเจ้าเรียกและสั่งให้ละทิ้งบ้านเกิดของตัวเองและทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะไปในถิ่นที่ท่านไม่เคยรู้จัก พระเจ้าเชิญชวนประชากรชาวยิวให้ออกจากประเทศอียิปต์ เพื่อก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา การเดินทางทุกครั้งต้องการความเสียสละ และความเข้มแข็ง บางครั้งเราต้องละทิ้ง สิ่งที่เรารักที่สุดในชีวิต อับราฮัมได้ละทิ้งบ้านเกิดของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับมนุษย์ทุกคน บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าได้ละทิ้งอาชีพ ครอบครัวและทุกอย่างเพื่อติดตามพระองค์ และใช้ชีวิตพเนจร ไม่ว่าจะเดินทางในรูปแบบไหนก็ต้องมีการสูญเสีย แต่ถ้าไม่มีการสูญเสีย นั่นก็ไม่สามารถแสวงหาสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าได้ พระศาสนจักรถือว่าเป็นประชากรของพระเยซูเจ้า ที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองสวรรค์และ คริสตชนทุกคนถูกเชิญชวนให้มีส่วนร่วมในการเดินทางนี้ เราจะไม่เดินทางอย่างโดดเดี่ยว แต่มีคนมากมายร่วมเดินทางด้วย เราไม่ต้องก้าวเดินด้วยความเศร้าโศก เพราะว่าที่ที่เป็นเป้าหมายที่กำลังรอคอยเรานั้น เป็นที่เต็มไปด้วยความสุขและสันติ การเดินทางไปในที่ต่างๆย่อมเสี่ยงอันตราย แต่คริสตชนไม่ต้องก้าวเดินด้วยมือเปล่า สัมภาระของพวกเรา คือ พละกำลังที่พระคริสตเจ้าประทานให้แก่เรา ดั่งที่ประชากรชาวยิวได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยมานา ระหว่าง การเดินทางมุ่งสู่ดินแดนแห่งพันธสัญญา พระองค์ทรงนำหน้าพวกเขาในเวลากลางวันด้วยเสาเมฆและตอนกลางคืนด้วยเสาเพลิง มิได้คลาดจากเบื้องหน้าประชากรเลย คริสตชนก็ก้าวเดินด้วยพระหรรษทานและพละกำลังที่ได้รับจากพระคริสตเจ้า ขอให้เราทุกคนได้เดินทางพร้อมกัน ด้วยความมั่นใจ ความพากเพียรและความซื่อสัตย์ตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น