วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การเดินทางบนหนทางแห่งความหวัง (สารวัดประจำเดือนพฤษภาคม 2011)



ปัสกาปีนี้จะมีอะไรพิเศษ...หรือ...จะเหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา, ปัสกาจะมีความหมายอะไร หรือสำคัญอย่างไร หรือว่าเป็นแค่เทศกาลของการให้ไข่, เพราะอะไรที่ประเทศเยอรมันถึงมีการออกกฎบังคับว่าห้ามเต้นในวันปัสกา และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่เป็นคำถามสำหรับเพื่อนพี่น้องที่อยู่รอบข้างเรา

งานเฉลิมฉลองวันปัสกาของวัดเราดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ซึ่งคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการเดินทางไปพร้อมกับพระคริสตเจ้าผู้เป็นองค์ความรอดและความหวังของชาวเรา สำหรับตารางเวลาในช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ของวัดเรานั้น คุณพ่อเจ้าอาวาสได้จัดเวลาเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ทุกท่านเพื่อว่าทุกคนจะสามารถมาร่วมเป็นหนึ่งเดียวในการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีพิธีกรรม

ในพิธีระลึกถึงงานเลี้ยงของพระคริสตเจ้าในวันพฤหัสฯศักดิ์สิทธิ์นั้น ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แต่สิ่งที่พิเศษสำหรับวันนั้นคืออะไร คงต้องเล็งไปที่พิธีล้างเท้าและบทเทศน์เตือนใจจากคุณพ่อเจ้าอาวาส ที่ท่านกล่าวถึง “จิตตารมณ์” แห่งการรักและรับใช้ซึ่งกันและกันโดยยึดพระคริสตเจ้าเป็นแบบฉบับ หลังจากเสร็จพิธี เวลาแห่งความเงียบงันเพื่อการพบกับพระคริสตเจ้าในศีลมหาสนิทถูกจัดไว้สำหรับกลุ่มสัตบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสมาชิกสภาอภิบาลและสัตุบุรุษทั่วไป กลุ่มเยาวชนวัด กลุ่มสมาชิกบ้านเด็กคุณแม่เทเรซาและบ้านนิจจานุเคราะห์ และกลุ่มชมรมเยาวชนเวียดนาม

วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์เป็นวันที่ระลึกถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า สัตบุรุษเดินทางมายังวัดตามเวลานัดหมาย คือ เวลาประมาณห้าโมงเย็น เราเริ่มต้นภาควจนพิธีกรรมที่ศาลานักบุญอาร์โนล์ด ต่อด้วยการวจนพิธีกรรมเดินรูป 14 ภาค และจบภาคนมัสการกางเขนและภาครับศีลมหาสนิทในวัด ถ้าถามว่าอะไรหละที่เป็นความพิเศษของพิธีกรรมในวันนั้นสำหรับสัตบุรุษของวัดเรา คงต้องตอบว่า การได้ร่วมเดินทางไปบนมรรคาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสตเจ้าและการถวายคำถวายรวมถึงความทุกข์ยากลำบากในชีวิตไว้ในความดูแลขององค์พระผู้เป็นเจ้าพร้อมความวางใจว่าพระองค์จะทรงรับไว้นั่นถือว่าเป็นความพิเศษอีกประการหนึ่งก็ว่าได้

ส่วนวันตื่นเฝ้าในวันเสาร์นั้น พิธีกรรมทุกอย่างที่เตรียมไว้ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายแต่คงไว้ซึ่งความสง่างาม เมื่อพิธีกรรมเสร็จสิ้น สัตบุรุษที่น้อยนิดของวัดเราต่างกล่าวแสดงความชื่นชมยินดีเป็นเสียงเดียวกันว่า “พระคริสตเจ้ากลับคืนชีพแล้ว อัลเลลูยา” ความปิติยินดีช่างเหมือนดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่งภายในจิตใจของทุกๆ คน คงไม่มีความหวังใดที่จะเทียบได้กับความหวังในการกลับคืนชีพของชาวเราทุกคนพร้อมกับองค์พระคริสตเจ้าอีกแล้ว (จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด อัลเลลูยา อัลเลลูยา)

เช้าวันอาทิตย์สมโภชปัสกา หลังมิสซานั้นมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การหาไข่ปัสกาเพื่อชิงรางวัลก็ดี การพบปะรับประทานอาหารว่างของพี่น้องสัตบุรุษก็ดี การร่วมกิจกรรมนันทนาการของเด็กเยาวชนก็ดี สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ก็ได้สร้างความสุขใจให้กับทุกๆ คนในวันเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริสตชนอย่างแท้จริง

บนสายทางแห่งความหวังที่ทอดยาวของเราคริสตชน หากลองมองในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น เราอาจจะพบความพิเศษที่แฝงอยู่ในความธรรมดาสามัญเสมอๆ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น